การขายสินค้าและบริการต่างๆ หรือการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องมีแผนการตลาดที่จะช่วยกระตุ้นให้สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งการจัดโปรโมชันถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่จะช่วยสร้างยอดขายและส่งผลให้ธุรกิจเติบโตจนประสบความสำเร็จได้ บทความนี้จึงจะพาไปรู้จัก “โปรโมชัน” แผนการตลาดที่ช่วยสร้างยอดขายให้ปัง เจาะลึกความสำคัญของการจัดโปรโมชันสินค้า และรูปแบบโปรโมชันลักษณะต่างๆ พร้อมสำรวจตัวอย่างโปรโมชันส่งเสริมการขายที่น่าสนใจ
สำหรับคนไทยเวลาได้ยินคำว่าโปรโมชัน (Promotion) ลอยเข้าหูมา ก็คงจะต้องเห็นภาพของสินค้าลดราคาหรือการจัดรายการที่ทำให้คุณสามารถเป็นเข้าของสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง แต่จริง ๆ แล้ว โปรโมชันนั้นมากจาก กริยา โปรโมท (Promote) ที่มีความหมายว่าการ ส่งเสริม หรือในบริบทปัจจุบันอาจจะใกล้เคียงกับการ ผลักดัน ทำให้เป็นที่รู้จักในด้านดี ๆ ฉะนั้น การทำโปรโมชันนั้นไม่ใช่แค่ศาสตร์ของการลดราคา หรือแจกของแถม แต่ถ้าทำแล้วสินค้าของเราเป็นที่รู้จักในด้านดี ก็ถือว่าเป็นการทำโปรโมชั่นแทบทั้งหมด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 เป้าหมายหลัก ๆ ได้ดังนี้
การจัดโปรโมชันในรูปแบบนี้จะเน้นไปที่การสร้าง ความรู้จักและการรับรู้ให้กับสินค้า เหมาะกับสินค้าที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่ รวมไปถึงสินค้าที่มีการใช้งานไม่เหมือนใคร ที่ต้องเพิ่มการรับรู้ของคนทั่วไปว่าแบรนด์ของตัวเองนั้นมีตัวตน โดยออกแบบโปรโมชันผสมผสานกับการทำแบรนด์ดิ้ง จะช่วยให้ภาพจำของสินค้าและตัวแบรนดฺ์นั้นเป็นที่จดจำได้ยิ่งขึ้น
หลายปีที่ผ่านมาปัจจัยเสริมที่นอกเหนือจากราคาและคุณภาพของสินค้า ถูกบดบังด้วยปัจจัยในการเลือกซื้ออื่น ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของทัศนคติและแนวคิดของแบรนด์ ที่ค่อย ๆ ได้รับความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การทำโปรโมชันที่เน้นการให้ข้อมูลจะโฟกัสไปที่การนำเสนอภาพลักษณ์ในแง่บวก หรือแนวคิดที่คิดว่าผู้บริโภคต้องการโดยพูดถึงสินค้าแต่น้อย โฟกัสไปที่การสร้างลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์
การทำโปรโมชันเพื่อ ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคนั้นสำคัญมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะเมื่อบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่าง ๆ นั้น จำเป็นที่จะต้องสื่อสารให้เข้าถึงผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดเพื่อทำตามข้อกำหนดทางกฏหมาย ฉะนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในบริษัทการโปรโมชั่นข่าวสารเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ทำให้บริษัทเสียประโยชน์ในภายหลัง รวมไปถึงข่าวสารบางอย่างยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย
ในสถานการณ์แข่งขันของตลาดปัจจุบัน เป็นเรื่องยากที่แบรนด์สินค้าจะยืนหยัดได้หากไม่มีความโดดเด่นเมื่อต้องเทียบกับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นทางความคิด ราคา คุณภาพ หรือความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าและบริการ การออกแบบโปรโมชัน ในหลาย ๆ ครั้งเองก็เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าแบรนด์ที่ตนเองกำลังอุดหนุนนั้น มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร เป็นการตอกย้ำความไว้วางใจให้กับลูกค้าที่ซื่อสัตย์ หรือเป็นการดึงเอากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาด้วย Brand Positioning ที่แข็งแรงนั่นเอง
และท้ายที่สุด โปรโมชั่นเพื่อการกระตุ้นยอดขายที่เรารู้จักกันดี เป็นการสร้างโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนสินค้าด้วยราคา ของแถม หรือพรีเซนเตอร์ เพื่อคาดหวังให้เกิดยอดขายที่เติบโตขึ้นจากยอดปกติรายเดือน
หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าการจัดโปรโมชันคือการลด แลก แจก แถม แต่ความหมายของ Promotion นั้น Promote สามารถทำได้อีกหลายวิธี และแต่ละวิธีล้วนเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้
การทำโฆษณา เป็นรูปแบบโปรโมชันที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ ด้วยการนำเสนอสินค้าผ่านสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามาทำการซื้อสินค้า โดยปัจจุบันการทำโฆษณาสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ โฆษณาออนไลน์ (Online) เป็นการลงโฆษณาผ่านหน้าเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Facebook Twitter Instagram Youtube รวมถึงการซื้อแบนเนอร์บนเว็บไซต์ เป็นต้น และโฆษณาออฟไลน์ (Offline) ซึ่งเป็นการลงโฆษณาผ่านช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่บนเว็บไซต์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ป้ายโฆษณา หนังสือพิมพ์ และสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ เป็นต้น
การขายโดยพนักงานขาย จะเป็นการใช้พนักงานติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแบบตัวต่อตัวเพื่อให้ข้อมูล เช่น การขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ การขายสินค้าสำนักงานโดยเข้าไปเสนอขายที่บริษัทโดยตรง การขายเครื่องกรองน้ำ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่เหมาะกับการจัดโปรโมชันรูปแบบนี้ คือสินค้าเฉพาะทางที่ต้องใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและต้องมีกำไรต่อหน่วยสูง แม้ว่าในปัจจุบันการใช้พนักงานขายจะลดความนิยมลง แต่การใช้พนักงานขายเพื่อนำเสนอสินค้าก็ยังเป็นวิธีที่มีประโยชน์ เพราะเป็นการสื่อสารทั้งสองฝ่าย ถ้าลูกค้าเกิดความสนใจและต้องการสอบถามข้อมูล พนักงานขายสามารถให้ข้อมูลและรายละเอียดได้ทันที จึงทำให้มีโอกาสปิดการขายได้ค่อนข้างสูง
การตลาดทางตรง เป็นการติดต่อสื่อสารไปยังลูกค้าผ่านการสื่อสารทางการตลาดอย่างน้อยหนึ่งสื่อ มีการสื่อสารทั้งสองฝ่ายคือผู้ประกอบการและลูกค้า จุดประสงค์เพื่อนำข้อเสนอพิเศษและวัดผลได้ เสนอให้ลูกค้าได้รับรู้ และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ ซึ่งจุดเด่นของรูปแบบโปรโมชันนี้คือสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาเป็นฐานข้อมูลของลูกค้าได้ และสามารถนำไปวิเคราะห์ วางแผนอย่างต่อเนื่องในอนาคต
การตลาดแบบประชาสัมพันธ์ หรือ การทำ PR คือการจัดโปรโมชันในลักษณะของการประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเสนอขายสินค้าโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการติดต่อสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลกับทั้งลูกค้า และผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้า หรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจุดเด่นอยู่ที่มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ปรากฏ เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม หรือการบอกว่าผลิตด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการประชาสัมพันธ์คือภาพลักษณ์ที่อาจส่งผลต่อต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในอนาคตนั่นเอง
การส่งเสริมการตลาด คือ โปรโมชัน ตามความหมายที่หลายคนคุ้นเคย เป็นวิธีการจัดโปรโมชันสินค้าด้วยกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งได้แก่ ลด, แลก, แจก, แถม, คูปอง, แจกตัวอย่างสินค้า, คืนเงิน และการทดลองใช้ฟรี เป็นต้น จุดประสงค์ของการส่งเสริมการตลาดคือเพื่อให้ผู้คนได้รู้จักสินค้ามากขึ้น โดยสินค้าที่เหมาะกับวิธีทำโปรโมชันรูปแบบนี้คือ สินค้าทดลองตลาด สินค้าใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก และสินค้าคงคลังที่ต้องการระบาย
ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและบริการ จะต้องมีการทำโปรโมชันส่งเสริมการตลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมตัวอย่างโปรโมชันส่งเสริมการขายที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการคิดโปรโมชัน
การซื้อ 1 แถม 1 คือการซื้อสินค้าชนิดใด ได้สินค้าชนิดนั้นแถมไปอีกหนึ่งอัน ทำให้ลูกค้าได้ซื้อของหลายอย่างในราคาที่น่าพึงพอใจหรือถูกลง ลูกค้าจึงคิดว่าได้รับข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมในการจัดโปรโมชัน สามารถนำโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 มาใช้ในการขายทั้งแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ได้ อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนการแถมในแง่อื่นได้ด้วย เช่น ซื้อ 2 แถม 1 ,ซื้อ 2 จ่าย 1 หรือการแถมสินค้าคนละชนิดกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามสินค้าที่ใช้โปรโมชันนี้ ควรเป็นสินค้าทั่วไปที่ไม่ได้เน้นความพรีเมียม หรือเป็นสินค้าลิมิเต็ดที่หายาก
โปรโมชันส่งสินค้าฟรี คือการส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นโปรโมชันที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะถ้าค่าส่งแพงเกินไปอาจทำให้ลูกค้าบางคนตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าเลยก็ได้ เหมาะใช้ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้ลองเข้ามาซื้อสินค้า แต่ก็ต้องคำนวณค่าส่งให้พอดี ไม่ขาดทุนจนเกินไป โดยอาจมีการจำกัดสิทธิ์หรือจำนวนสินค้าต่อการสั่งซื้อ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้กล่องสินค้ามีน้ำหนักมากจนเกินไป
คูปองส่วนลด คือการให้ส่วนลดในรูปแบบคูปอง โดยอาจมีการจำกัดให้ใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือกำหนดวันหมดอายุของคูปองส่วนลด ซึ่งจะช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถกระตุ้นความเร่งด่วนได้ตามหลักจิตวิทยาอย่างมีประสิทธิภาพ
การสะสมแต้ม คือการกระตุ้นให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ หากซื้อสินค้าครบ 10 ครั้งก็จะมอบรางวัลที่เหมาะสมให้กับลูกค้า เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำหรือใช้ซ้ำเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งโปรโมชันนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลดีต่อยอดขาย แต่ทางแบรนด์ก็ต้องรักษาคุณภาพสินค้า หรือรักษามาตรฐานในการให้บริการด้วยเช่นกัน
การจัดโปรโมชันลดราคาสินค้า ถือเป็นการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้า ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าในราคาถูก เมื่อลูกค้าได้ทดลองและเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็จะกลับมาซื้ออีกครั้งในราคาเต็ม เป็นไอเดียโปรโมชันที่ได้ผลดี ในเวลาที่มีลูกค้าต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก หรือสินค้าที่ต้องมีการเปลี่ยนสินค้าใหม่ในระยะเวลาไม่นาน
การรับสินค้าทดลองฟรี คือให้ลูกค้าได้นำสินค้าไปทดลองใช้ หากลูกค้าถูกใจก็มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักกับสินค้า สร้างความเชื่อถือกับลูกค้า และกล้าที่จะกลับมาซื้อใช้ในครั้งต่อไปมากขึ้น
การจัดโปรโมชันด้วยการแข่งขันและชิงโชค เป็นไอเดียโปรโมชันที่ดีที่จะใช้ในการกระตุ้นความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพราะสามารทำให้ผู้คนรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมได้ อีกทั้งเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในคนหมู่มากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่มาจากการแชร์ข้อมูลสินค้าหรือแบรนด์ออกไปมากที่สุด
การจัดโปรโมชันเป็นการทำเพื่อกระตุ้นยอดขาย จึงไม่ควรจัดให้ขาดทุนหรือจัดบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณค่าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ลดลงไปด้วยได้ ดังนั้นก่อนจัดโปรโมชันจึงควรศึกษาหรือรู้เทคนิคต่างๆ เหล่านี้ก่อน
การกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ จะช่วยให้วางแผนการจัดโปรโมชันสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจน และสามารถจัดการกระบวนการทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย โดยหลักการในการกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ เริ่มจากการตอบคำถามง่ายๆ อย่างจะทำสินค้าหรือโปรโมชันไปทำไม ปัญหาอะไรที่ธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ เช่น ลูกค้าใหม่ลดลง จำนวนลูกค้าเท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าน้อยลง หรือลูกค้าเก่ากลับมาซื้อน้อยลง เป็นต้น การกำหนดเป้าหมายจึงควรครอบคลุมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เริ่มจากเป้าหมายระยะสั้นคือขั้นตอนที่ควรดำเนินการไปให้ถึง และเป้าหมายระยะยาวที่วางแผนล่วงหน้าเป็นรายเดือน รายไตรมาส และราย 6 เดือน
การตั้งงบประมาณมีความสำคัญเพราะช่วยให้สามารถควบคุมการขายและค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้นผ่านตัวเลขในบัญชีและการเงิน โดยวิเคราะห์งบประมาณจากสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน ตัดสินใจว่าจะใช้จ่ายเท่าใดในการทำโปรโมชันส่งเสริมการตลาด พิจารณาให้แน่ใจว่าเงินจำนวนนั้นสมเหตุสมผล และอย่าลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสินค้า หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สำคัญ
การจัดโปรโมชันควรทำให้สอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงควรสำรวจกลุ่มเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยค้นหาว่ากลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ไหน ปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายคืออะไร และวิเคราะห์วิธีการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านั้น ถ้าสามารถสำรวจและวิเคราะห์กลุ่มผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ จะสามารถนำไปปรับใช้ในการคิดโปรโมชันได้อย่างเหมาะสม
การเลือกกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม จะสามารถนำเสนอโปรโมชันให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากเป้าหมายคือการเพิ่มยอดการเข้าชมและยอดขาย ก็เลือกกลยุทธ์ที่เน้นไปทางโฆษณา หากต้องการเพิ่มการรับรู้และจดจำแบรนด์ ให้เน้นกลยุทธ์ไปที่การตลาดบนโซเชียลมีเดียหรือการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ เป็นต้น
หากธุรกิจหรือแบรนด์ใดมอบหมายงานและแจกแจงหน้าที่รับผิดชอบได้อย่างเหมาะสม จะทำให้สามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดทำโปรโมชันได้โดยละเอียด ซึ่งการมอบหมายงานควรแยกออกจากการกัน เป็นโปรโมชันในแต่ละช่องทาง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และควรจ้างผู้เชี่ยวชาญในการตลาดแต่ละด้าน เช่น SEO, PPC, Content Marketing, Targeting เป็นต้น เพื่อมารับหน้าที่รับผิดชอบสำหรับการจัดโปรโมชันอย่างมีประสิทธิภาพ
โปรโมชัน หมายถึง การส่งเสริมการตลาดที่พยายามเพื่อให้ลูกค้าสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ เป็นวิธีการกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งรูปแบบโปรโมชันส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยม จะเป็นการจัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1, โปรโมชันส่งสินค้าฟรี, คูปองส่วนลด, บัตรสะสมแต้ม, โปรโมชันลดราคาสินค้า, โปรโมชันรับสินค้าทดลองฟรี และการแข่งขันชิงโชค โดยหากมีการจัดโปรโมชันสินค้าที่เหมาะสมทั้งในด้านรูปแบบโปรโมชัน กลยุทธ์ และช่องทางการขาย จะเป็นโอกาสที่นำพาธุรกิจหรือแบรนด์นั้นไปสู่หนทางของความสำเร็จได้ ทั้งนี้ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา แหล่งรวมสินค้าและกิจกรรมต่างๆ ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ชีวิต มีแบรนด์ต่างๆ และร้านกิจกรรมชั้นนำมากมายที่น่าสนใจ พร้อมมามอบประสบการณ์ดีๆ และมีรูปแบบโปรโมชันที่หลากหลายให้คุณเลือกชอปปิงหรือผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ณ ศูนย์การค้าใจกลางรัชดาแห่งนี้ ที่นี่ที่เดียว
 (1).jpg)
