สุขภาพดีด้วย Paleo Diet วิถีการกินแบบมนุษย์ยุคหิน
ไม่มีกำหนดอายุ

สุขภาพดีด้วย Paleo Diet วิถีการกินแบบมนุษย์ยุคหิน

ช่วงหลายปีมานี้เทรนด์การรักษาสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งการออกกำลังกายแบบต่าง ๆ การทำอย่างไรให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานให้ได้มากต่างถูกคิดค้นขึ้นมา แม้กระทั่งต้องกินอาหารอย่างไรถึงจะเป็นประโยชน์กับร่างกายมากที่สุดและเป็นวิธีการคุมอาหารที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด หนึ่งในวิธีการกินเพื่อสุขภาพที่กำลังนิยมในปัจจุบันอีกหนึ่งวิธีคือการกินแบบ Paleo Diet

เทรนด์ใหม่จากโลกเก่า

Paleo Diet เป็นการกินเพื่อสุขภาพที่ย้อนกลับไปสู่วิธีการกินอาหารของมนุษย์ยุคหินในช่วงประมาณ 2.5 ล้านถึง 10,000 ปีก่อน กินในแต่ละวัน แต่อย่าคิดว่าต้องไปหากินเนื้อไดโนเสาร์ หรือกินเนื้อสัตว์ดิบ ๆ กันนะ! การกินอาหารแบบมนุษย์ยุคหินนี้หมายถึงอาหารส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อสัตว์ที่ไม่ค่อยมีไขมัน เนินกินปลา ผัก ผลไม้ ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ ที่สามารถหาได้ ซึ่งอาหารประเภทนี้จะปลอดจากสารพิษที่ไว้สำหรับป้องกันศัตรูจากพืชและสารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้เร่งการเจริญเติบโตในสัตว์และพืช

แนวคิดการกินอาหารแบบนี้ไม่ได้ใหม่มากนัก เพราะเกิดขึ้นในราวปี ค.ศ. 1970 โดย Walter Voegtlin ที่เป็นแพทย์ด้านทางเดินอาหาร จนเป็นที่รู้จักมากขึ้นและกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะการกิน Paleo Diet เป็นการควบคุมอาหารโดยกินอาหารที่เน้นวัตถุดิบธรรมชาติที่เรียบง่าย ดีต่อสุขภาพและรูปร่าง จึงกลายมาเป็นเทรนด์การกินเพื่อสุขภาพและเป็นวิธีการไดเอทที่ดาราจำนวนมากใช้เป็นทางเลือกในการกินเพื่อรักษาสุขภาพ เช่น Miley Cyrus, Megan Fox, Millie Mackintosh และ Jessica Biel ฯลฯ ดาราแต่ละคนที่กินแบบ Paleo Diet ก็มีรูปร่างที่ดี หุ่นสวยกันทุกคนเลย

ประโยชน์ Paleo Diet

ประโยชน์ของการรับประกินอาหารแบบ Paleo Diet

จะสังเกตได้ว่า Paleo Diet คือการกินอาหารที่มีการปรุงแต่งน้อย มีแคลอรี่ต่ำ คาร์โบไฮเดรตที่มาจากพืชผัก ไม่ได้มาจากแป้งสาลี เน้นการกินโปรตีนสูง และไขมันที่ดีต่อร่างกาย ร่างกายจึงนำเอาไขมันที่ได้ไปเผาผลาญแทนการนำคาร์โบไฮเดรตไปใช้ รวมไปถึงพวกวิตามินและไฟเบอร์ที่ได้จากผักผลไม้ ที่สำคัญคือเป็นอาหารที่ปลอดสารพิษ สารเคมีต่างๆ หากพูดแบบสรุปง่ายการกินแบบ Paleo Diet คือการตัดอาหาร "ไม่ดี" ออก “ นั่นเอง ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างมากมาย โดยในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างผลดีต่อร่างกาย ที่มีงานวิจัยรองรับให้เพื่อนๆลองอ่านดูกัน

- อาจช่วยในการลดน้ำหนัก แน่นอนเลยว่า การไดเอทให้มีหุ่นที่สมส่วนสวยงามคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของผู้รักสุขภาพ จากงานวิจัยเมื่อปี 2008 พบว่า อาสาสมัครที่มีน้ำหนักในเกณฑ์สุขภาพดีจำนวน 14 คน สามารถลดน้ำหนักไปได้เฉลี่ยละ 2.3 กิโลกรัมหลังรับประกินอาหารแบบ Paleo Diet เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทั้งยังมีงานศึกษาวิจัยบางชิ้นที่พบว่า การรับประกินอาหารแบบ Paleo Diet ยังอาจช่วยลดรอบเอวได้ด้วย

- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน การกินแบบ Paleo Diet ที่แทบจะตัดน้ำตาลออกไปจากชีวิตเลย หรือถ้ากินบ้าง ก็กินเพียงเล็กน้อยจากความหวานที่ได้ที่ได้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เราคงจะพอคาดเดาได้ว่าผลเสียต่างๆที่มาจากการกินหวานคงลดลง ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อปี 2015 ที่นักวิจัยได้เปรียบเทียบผลของการกินอาหารแบบ Paleo Diet และกินอาหารตามคำแนะนำของสมาคมโรคเบาหวาน พบว่า ทั้งสองวิธีเป็นวิธีที่ดีและช่วยปรับปรุงสุขภาพได้จริง แต่การกินอาหารแบบ Paleo Diet อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าด้วย

- ลดระดับความดันโลหิต ความดันโลหิตสูงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โดยงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อปี 2014 ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่เป็นโรคเมตาบอลิก (Metabolic syndrome) จำนวน 34 คนนักวิจัยได้แบ่งกลุ่มให้กลุ่มหนึ่งรับประกินอาหารแบบ Paleo Diet และอีกกลุ่มรับประกินอาหารตามที่สภาสุขภาพแห่งเนเธอร์แลนด์แนะนำ ผลการศึกษาวิจัยพบว่า Paleo Diet อาจช่วยลดความดันและระดับไขมันในเลือดได้ดีกว่า

จริงๆแล้วการกินอาหารแบบ Paleo Diet นี้ ยังมีผลดีต่อสุขภาพมากมาย แต่ข้อดีทั้ง 3 อย่าง ที่ยกตัวอย่างมาโดยอ้างอิงจากงานวิจัยนั้น ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการทำให้สุขภาพที่ดีในด้านอื่นๆตามมาอีกมากมาย

paleo food

อาหารแบบ Paleo Diet คือแบบไหนกันนะ

อาหารแบบ Paleo Diet ไม่มีการกำหนดรูปแบบการรับประทานอาหาร อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่จะมีวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี ไม่ผ่านการแปรรูปด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ปรุงแต่งด้วยน้ำตาลหรือเกลือ รวมทั้งไม่ใช่อาหารที่ผลิตจากโรงงาน โดยในแต่ละมื้ออาจมีวิธีการแบ่งดังนี้

- กินผัก และผักประเภทหัว ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำในสัดส่วนประมาณ 40% เช่น ผักใบเขียว, แครอท, ผักโขม, บร็อคโคลี, หัวหอม, แตงกวา, ดอกกะหล่ำ, มะเขือม่วง, หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ

- อาหารประเภทโปรตีน 30% ซึ่งจะเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยเฉพาะสัตว์ที่กินหญ้าเป็นอาหารและเลี้ยงแบบปล่อยในธรรมชาติ รวมทั้งปลาชนิดต่าง ๆ

- ไขมันประมาณ 15% ให้เลือกเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพที่ได้จากเนื้อสัตว์และเมล็ดพืช เช่น ไขมันจากปลา, ถั่วเปลือกแข็ง, อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปลา ฯลฯ

- คาร์โบไฮเดรต 15% ที่มาจากผลไม้และถั่วต่าง ๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและมีน้ำตาลน้อย เช่น ถั่วดำ, ถั่วขาว, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, แอปเปิ้ล ฯลฯ

และดื่มน้ำเยอะ ๆ ประมาณ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำมาจาก ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง ถั่วลันเตา รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม เกลือ น้ำตาลทรายขาว มันฝรั่ง และอาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ เป็นต้น รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

ชวนคิดก่อนเลือกกินอาหารแบบ Paleo Diet

ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่า ทำไมถึงจะกินอาหารแบบ Paleo Diet เพื่อสุขภาพหรือลดน้ำหนัก อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าการกินอาหารแบบนี้ เป็นการกินเพื่อสุขภาพ น้ำหนักที่ลดลงคือผลพลอยได้ แต่ถ้าหากต้องการกินแบบ Paleo Diet เพื่อลดน้ำหนักนั้น ก็มีรูปแบบการกินต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมอาหาร เช่น การทำ IF, การกินอาหารคีโต และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งแต่ละแบบมีวิธีการ และมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันไป จึงอยากให้ลองศึกษาก่อนว่า Paleo Diet ข้อเสียมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าเราเหมาะกับการลดน้ำหนักแบบ Paleo มากน้อยแค่ไหน อย่างไร ซึ่งหากตัดสินที่จะกินอาหารแบบ Paleo Diet นั้น อาจจะพบกับข้อจำกัดในหลายๆอย่าง เช่น วัตถุดิบราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องเป็นวัตถุดิบออร์แกนิคและอาจหาซื้อได้ยากในบางพื้นที่ อาจต้องทำอาหารกินเอง เพราะต้องควบคุมเรื่องวัตถุดิบรวมทั้งการปรุงรสชาติอาหาร สิ่งต่างๆเหล่านี้อาจสร้างความลำบากในการกินอาหารนอกบ้าน นอกจากนี้ การกินอาหารแบบ Paleo Diet อาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ตามที่ร่างกายต้องการ จึงอาจต้องรับอาหารเสริมหรือชดเชยตามความจำเป็นอีกด้วย

Diet plan

เมนู Paleo Diet อร่อยแบบง่ายๆ ได้แคลอรี่น้อย

อย่างที่ได้เล่าไปแล้วว่าการกินอาหารแบบ Paleo Diet ควรเน้นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ ผัก ผลไม้ ธัญพืช น้ำมันพืช โดยเลือกอาหารแต่ละจำพวกให้หลากหลายชนิดและหลากสี เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

หากตัดสินใจแล้วว่าจะกินแบบ Paleo Diet อย่างจริงจัง หรืออยากทดลองกินดูก่อน วันนี้มีตัวอย่างแผนการรับกินอาหารแบบ Paleo Diet สำหรับ 7 วัน มาให้ลองกันดู ทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนเมนูได้ตามความเหมาะสมของตัวเองได้เลย โดยมีเมนูแนะนำดังนี้

เมนู Paleo Diet วันที่ 1

เช้า อะโวคาโด สลัดผลไม้ นมอัลมอนด์

กลางวัน สลัด และปลาทอด หรือย่าง

เย็น จะเป็นไก่ย่าง อบ หรือต้มก็ได้ กินกับหัวหอมย่างและฟักทองย่าง

เมนู Paleo Diet วันที่ 2

เช้า เบคอน ไข่ และผลไม้สดต่างๆ

กลางวัน สลัดผักและเนื้อสัตว์ปรุงสุก เช่น สเต็กหมู

เย็น ปลาแซลมอนกับผักผัดในน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว

เมนู Paleo Diet วันที่ 3

เช้า กล้วยหรือผลไม้ชนิดต่าง ๆ และอัลมอนด์

กลางวัน สลัดผัก ที่อาจประกอบด้วยเนื้อปลา และใช้น้ำมันมะกอกแทนครีมสลัด

เย็น เนื้อสัตว์ไม่ติดมันปรุงสุกแบบที่ชอบ หากทอดหรือผัด ต้องใช้น้ำมันจากพืชเท่านั้น

เมนู Paleo Diet วันที่ 4

เช้า ไข่ต้มหรือตุ๋น และผักผลไม้

กลางวัน สลัดผักที่มีส่วนประกอบของทูน่า ไข่ต้ม และเมล็ดพืช

เย็น เนื้อสัตว์ไร้ไขมันหรือไขมันน้อยนำไปย่างหรืออบ

เมนู Paleo Diet วันที่ 5

เช้า เน้นรับประกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และผักใบเขียว

กลางวัน รับประกินสลัดผักรวมตามชอบ รวมทั้งธัญพืช และไข่

เย็น เนื้อสัตว์ไร้ไขมันได้ เช่น สเต็ก กินคู่กับผักชนิดต่างๆ

เมนู Paleo Diet วันที่ 6

เช้า ไข่ต้ม หรือตุ๋น หากเป็นไข่ดาวควรเป็นไข่ดาวน้ำหรือทอดในน้ำมันจากพืช เบคอน และผัก

กลางวัน ต้มผักกับเนื้อสัตว์ต่างๆ

เย็น เนื้อสัตว์ ไร้ไขมันหรือไขมันน้อยและผักตามชอบ

เมนู Paleo Diet วันที่ 7

เช้า อาหารที่ประกอบไปด้วยไข่ และผลไม้

กลางวัน สลัดผักใส่เนื้อสัตว์ ใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำสลัด

เย็น อาหารจำพวกแกงหรือต้ม แต่ควรประกอบด้วยเนื้อสัตว์ และผักรวม

เมนูอาหารและแผนการกินอาหารข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่าง ทุกคนสามารถไปปรับให้เข้ากับความเหมาะสมของตัวเองได้ และควรปรึกษานักโภชนาการ หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการกินอาหารแบบ Paleo Diet เพื่อให้ได้แผนการกินที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพมากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการกินแบบ Paleo Diet หรือแบบไหนก็ตาม เราควรกินให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตในทุกๆด้าน เพราะการที่ร่างกายจะมีสุขภาพที่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกินอาหารรูปแบบไหน และไม่จำเป็นที่ต้องกินอาหารที่มีราคาแพง แต่อยู่ที่การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับสุขภาพร่างกาย การใช้ชีวิตของตัวเองมากทีสุด ดังนั้น เราจึงควรใช้วิจารณญาณในการเลือกรับประกินอาหารแต่ละประเภทเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง

Related