เปิดตำราเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตพร้อมวิธีทำตามรอยซีรีส์ดัง

ความนิยมในประเทศเกาหลีเรียกได้ว่ามีบทบาทอย่างมากในประเทศไทย ไม่ว่าจะผ่านทั้งทางเพลง ไอดอล หนัง ซีรีส์หรือแม้กระทั่งเมนูอาหารเกาหลี ซึ่งเป็นอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นที่ถูกปากถูกคอคนไทยมาอย่างยาวนาน สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองความอร่อยจากเมนูต่าง ๆ เหล่านี้ หรืออยากรู้เคล็ดลับวิธีทำอาหารเกาหลีไว้ทานที่บ้าน ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ และวิธีทำอาหารเกาหลีแสนง่ายมาฝาก จะมีเมนูใดบ้าง อ่านไปพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย

สารบัญ เมนูอาหารเกาหลี

• จาปากูรี
• เนื้อย่าง
• ซันนักจี
• กิมจิเกาหลีเหนือ
• บิงซู

จาปากูรี

มาเริ่มกันที่วิธีทำอาหารเกาหลีเมนูแรกอย่างจาปากูรี ที่โด่งดังมาจากหนังรางวัลออสการ์สัญชาติเกาหลีเรื่อง Parasite ที่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำและชนชั้นในเกาหลีได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงตัวเมนูเกาหลีอย่างจาปากูรีที่ปรากฎในเรื่องเองก็สะท้อนความเหลื่อมล้ำได้ไม่แพ้กัน

โดยจาปากูรีมีส่วนประกอบของรามยอนสำเร็จรูป หรือจะให้เข้าใจง่าย ๆ คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นเอง ซึ่งเมื่อนานมาแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้เป็นสัญลักษณ์ของการขาดแคลนอาหาร แต่สำหรับจาปากูรีในเรื่อง Parasite ถูกหยิบยกขึ้นมาให้เป็นอาหารทานเล่นของคนร่ำรวย ที่ใส่เนื้อวัวราคาแพงเพิ่มเข้าไปด้วยทำให้ดูน่าทาน และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการที่มากขึ้น

วัตถุดิบ

• จาปาเกตี้ (Jjapaghetti) รามยอนกึ่งสำเร็จรูปรสจาจังเมียน และนอกูรี (Neoguri) รามยอนกึ่งสำเร็จรูปรสเผ็ดและซีฟู้ด
• เนื้อวัวประมาณ 130-150 กรัม หรือสำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อวัวก็สามารถใช้โปรตีนอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือแฮม
• น้ำมัน
• เกลือ

วิธีทำ

• สำหรับวิธีทำอาหารเกาหลีเมนูนี้ เริ่มจากการนำเนื้อมาหั่นเป็นรูปทรงลูกเต๋าขนาดประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นคลุกด้วยน้ำมัน เกลือเล็กน้อย แล้ววางพักไว้
• ลวกเส้นรามยอนทั้งสองรสเข้าด้วยกัน โดยตั้งน้ำให้เดือด ใส่เส้น แต่ยังไม่ต้องใส่ผงปรุง จากนั้นเมื่อเส้นนิ่มตามต้องการแล้ว ให้เทน้ำออกเหลือไว้เพียงก้นหม้อ
• ใส่ผงปรุงของรามยอนกึ่งสำเร็จรูปลงในหม้อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้ววางพักไว้
• ตั้งกระทะด้วยการใช้ไฟกลาง เติมน้ำมันเล็กน้อย รอให้กระทะเริ่มร้อน จากนั้นนำเนื้อหรือโปรตีนต่าง ๆ ลงไปจี่ในกระทะจนสุก
• นำเส้นที่คลุกผงปรุงแล้วเทลงในกระทะ จากนั้นผัดจนน้ำเริ่มแห้ง แล้วนำจัดใส่จานได้เลย

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย แบบต้นฉบับจากประเทศเกาหลีเมนูนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเมนูเกาหลีที่ทำไม่ยาก มีวิธีทำง่าย ไม่ซับซ้อน รวมถึงเติมคุณค่าทางโภชนาการให้สูงขึ้นกว่าการทานรามยอนแบบเดิม ๆ อีกด้วย

เนื้อย่าง

มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูเกาหลียอดฮิตตลอดกาลอย่างเนื้อย่าง จากเรื่อง Weightlifting Fairy Kim Bok-Joo ที่ไม่ว่าจะตามดูอีพีไหนก็เป็นต้องน้ำลายไหล บอกได้เลยว่าช่วง Work From Home แบบนี้ใครได้ย้อนกลับไปดูซีรีส์เรื่องนี้ ต้องนั่งดูไปหิวไป จนต้องหาอะไรมานั่งทานด้วยอย่างแน่นอน

โดยเมนูเกาหลีอย่างเนื้อย่างนั้น นอกจากจะเต็มไปด้วยความหอมอร่อยจากหมูสามชั้นที่จี่ร้อน ๆ ในกระทะแล้ว อีกหนึ่งความสุขจากการทานเนื้อย่างนั่นก็คือ การได้ร่วมพูดคุยกับเพื่อน ๆ พร้อมรับบรรยากาศที่แสนสนุกสนานเหมือนอย่างที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเสนอนั่นเอง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ใช่ว่าจะกินเมนูเกาหลีเมนูนี้ไม่ได้นะ เรามีวิธีทำ และการเตรียมวัตถุดิบทำเนื้อย่างสไตล์เกาหลีที่อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับมาฝาก สามารถทำง่าย ทานสะดวกได้ที่บ้านเลย

วัตถุดิบ

• ผักเครื่องเคียงตามความชอบ เช่น ใบงา ผักสลัด กระเทียม พริก เป็นต้น
• เนื้อหมูสามชั้นลอกหนัง ความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถเลือกปริมาณได้ตามความต้องการ
• ซัมจัง หรือ ซอสจิ้มเนื้อสัตว์สูตรเกาหลี
• โคชูจัง หรือ ซอสพริกเกาหลี
• น้ำมันงา
• เกลือ
• น้ำตาล

วิธีทำ

• สำหรับวิธีทำอาหารเกาหลีเมนูนี้ เริ่มจากการนำผักต่าง ๆ มาล้างให้สะอาด สำหรับผักที่ใช้ห่ออย่างใบงาและผักสลัด เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วให้นำไปพักบนภาชนะเพื่อให้ผักสะเด็ดน้ำ ส่วนพริกและกระเทียม ให้นำมาหั่นเป็นขนาดพอดีคำ จากนั้นจัดเตรียมใส่ถ้วยไว้
• นำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาด ซับน้ำให้แห้ง จากนั้นตัดความยาวให้มีขนาดพอดีกระทะ แต่ยังไม่ต้องตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วจึงแบ่งเนื้อหมูออกเป็น 2 ถ้วยในปริมาณเท่า ๆ กัน
• เนื้อหมูถ้วยที่ 1 ผสมด้วยเกลือ น้ำมันงา แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
• เนื้อหมูถ้วยที่ 2 ผสมด้วยโคชูจัง น้ำตาล น้ำมันพืช แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
• พักหมูทั้ง 2 ถ้วยเป็นเวลาประมาณ 5-10 นาที จากนั้นนำลงย่างบนกระทะร้อน คอยพลิกด้านให้หมูสุกทั่วถึง
• เมื่อหมูใกล้สุกให้ใช้กรรไกรตัดหมูในแนวตั้ง ความกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร จี่หมูในกระทะต่ออีกเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย
• สำหรับวิธีทานเนื้อย่างเกาหลีให้อร่อยหนำใจ ให้เริ่มจากการนำผักมาวางไว้ที่มือ จากนั้นคีบหมูจิ้มซอสซัมจัง วางลงบนผัก พร้อมด้วยพริกและกระเทียม จากนั้นห่อผักให้เป็นทรงกลม ๆ แล้วนำเข้าปากภายในคำเดียวไปเลย รับรองได้ว่าอร่อยฟินไม่แพ้กับในซีรีส์แน่นอน

ซันนักจี

หนังเรื่องถัดมาที่พาให้เรารู้จักกับเมนูเด็ดของเกาหลีเมนูนี้ คือ Hello Stranger หรือชื่อไทยว่า ยินดีที่ไม่รู้จัก หนังรอมคอมทางฝั่งไทยของเรานี่เอง แม้จะไม่ใช่หนังเกาหลี แต่แทบทั้งเรื่องมีการถ่ายทำอยู่ที่เกาหลีทั้งหมด

ดังนั้นจึงหนีไม่พ้นการรับประทานเมนูเกาหลีขึ้นชื่ออย่างซันนักจี หรือก็คือเมนูปลาหมึกดิบ ๆ เสิร์ฟกันแบบที่หนวดปลาหมึกยังดิ้นอยู่ เพราะความสดนี้เอง ที่ทำให้ซันนักจีหวานอร่อยและเป็นที่นิยมอย่างมาก

วัตถุดิบ

• หมึกสด ปริมาณตามต้องการ
• พริก
• กระเทียม
• งาคั่ว

วิธีทำ

• สำหรับวิธีทำอาหารเกาหลีเมนูนี้ เริ่มจากการนำหมึกสดมาล้างให้สะอาด จากนั้นเปิดหัวหมึกเพื่อนำถุงของเสียที่หัวออก
• หั่นหมึกสดเป็นชิ้น วางลงบนจาน
• โรยด้วยงาคั่ว จากนั้นทานแบบเปล่า ๆ หรือทานคู่ไปกับพริกและกระเทียมก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามเมนูเกาหลีเมนูนี้เป็นเมนูดิบที่ต้องใส่ใจในเรื่องของความสะอาดเป็นอย่างมาก หากได้ปลาหมึกที่ไม่สดถูกสุขอนามัยหรือทำความสะอาดไม่ดี ก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน

กิมจิเกาหลีเหนือ

กิมจิ นับได้ว่าเป็นเมนูเกาหลียอดฮิตที่ไม่ว่าใครก็รู้จัก และเมื่อได้ดู Crash Landing on You ก็ถึงกับต้องประหลาดใจ เพราะจริง ๆ แล้วกิมจิเกาหลีเหนือนั้นมีความแตกต่างจากกิมจิเกาหลีทั่วไปที่เป็นทางฝั่งเกาหลีใต้ เพราะจะต้องเก็บใส่ไหไว้ในถ้ำ

นอกจากวิธีการเก็บแล้ว รสชาติของกิมจิเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ก็ยังแตกต่างกัน เพราะในกิมจิเกาหลีใต้นั้น มักจะมีการใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ ที่เข้มข้น ต่างจากกิมจิเกาหลีเหนือที่จะใช้เฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติเท่านั้น

จึงทำให้รสชาติของกิมจิเกาหลีเหนือไม่เค็มหรือเข้มข้นเท่ากิมจิเกาหลีใต้นั่นเอง ใครอยากลองทำเมนูเกาหลีเมนูนี้ที่หากินได้ยาก สามารถทำตามวิธีนี้ได้เลย

วัตถุดิบ

• พริกป่นเกาหลี
• ผักกาด
• ต้นหอม
• เนื้อปลาแห้งรสชาติเค็ม หรือ เกลือ

วิธีทำ

• สำหรับวิธีทำอาหารเกาหลีเมนูนี้ เริ่มจากการล้างทำความสะอาดผัก จากนั้นนำผักกาดมาผ่าแบ่งครึ่งแล้ววางพักไว้ในกะละมัง
• ใช้เนื้อปลาแห้งรสชาติเค็มหรือเกลือผสมรวมกับพริกป่นเกาหลี ปรุงจนได้รสชาติที่ชื่นชอบ โดยอาจใช้น้ำในปริมาณเล็กน้อย เพื่อทำให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเข้ากันได้ดีขึ้น
• นำเนื้อปลาแห้งและพริกที่ผสมเข้ากันดีแล้วค่อย ๆ ทาลงบนผักกาดในแต่ละชั้น โดยใส่เนื้อปลาเข้าไปด้วย ซึ่งเนื้อปลานี้จะช่วยเพิ่มรสชาติให้ผักกลมกล่อมมากขึ้น
• มัดผักกาดที่คลุกเคล้าส่วนผสมของปลาแห้งและพริกเสร็จแล้วด้วยต้นหอม จากนั้นทาส่วนผสมของปลาแห้งและพริกที่ด้านนอกของผักให้ทั่วอีกครั้ง
• นำผักทั้งหมดใส่โหลหรือภาชนะ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้เป็นเวลาประมาณ 1-2 คืน

เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้กิมจิแสนอร่อยไว้ทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับเมนูเกาหลีเมนูอื่น ๆ ได้แล้ว แถมยังสามารถเก็บไว้ทานได้หลายมื้อ นับว่าลงมือทำตามสเต็ปง่าย ๆ เพียงครั้งเดียวแต่คุ้มค่าสุด ๆ

บิงซู

ปิดท้ายกันด้วย 'บิงซู' เมนูของหวานเกาหลียอดนิยมตลอดกาลที่โด่งดังและเป็นกระแสอย่างมากจากซีรีส์ยอดฮิตเรื่อง Pinocchio ที่เหมาะกับการช่วยเพิ่มความสดชื่น เติมพลังงานในวันที่อากาศร้อน แถมมีท็อปปิ้งต่าง ๆ อีกมากมายให้ชื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รี กล้วย เมลอน หรือไซรัปจำพวกช็อคโกแลต คาราเมล และชาเขียว เรามาดูวิธีทำเมนูนี้กันเลย

วัตถุดิบ

• วิปปิ้งครีม
• นมข้นหวาน
• นมสดรสจืด
• ผลไม้หรือท็อปปิ้งต่าง ๆ ที่ชื่นชอบ

วิธีทำ

• สำหรับวิธีทำอาหารเกาหลีเมนูนี้ เริ่มจากการนำนมสดรสจืดและนมข้มหวานผสมเข้าด้วยกัน สามารถชิมความหวานและเติมเพิ่มได้ในปริมาณที่ต้องการ คนให้เข้ากันดี จากนั้นนำไปแช่ในช่องฟรีซ
• หากเลือกท็อปปิ้งเป็นผลไม้ ให้นำผลไม้ไปล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ พักให้ผลไม้สะเด็ดน้ำ
• นำนมสดและนมข้นหวานที่แช่ในช่องฟรีซจนเริ่มกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งออกมา จากนั้นใช้ช้อนค่อย ๆ ขูดให้เป็นเกล็ดเล็ก ๆ ลงในภาชนะที่เตรียมไว้จนพูน
• ตกแต่งด้วยผลไม้หรือท็อปปิ้งที่ต้องการ

ถึงแม้จะเป็นของหวานทานเล่น แต่ก็สามารถทานคู่กับเมนูผลไม้ที่หลากหลายได้ตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ หรือจะลองปรับเปลี่ยนเป็นผลไม้ตามฤดูกาลก็อร่อยไม่ซ้ำไปอีกแบบ

เคล็ดลับ “ตะเกียบโลหะ” ในการกินอาหารเกาหลี

หลังจากที่ได้รู้จักกับวิธีทำอาหารเกาหลีจากหนังและซีรีส์ต่าง ๆ กันไปพอสมควรแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกินเมนูเกาหลีทั้งหลายที่ว่ามา ซึ่งก็คือตะเกียบโลหะ เพราะจะเห็นได้เลยว่าคนเกาหลีใช้ตะเกียบโลหะเป็นทุก ๆ อย่างในการกินจริง ๆ ไม่ว่าจะใช้จิ้ม คีบ หรือตัดก็สามารถทำได้ง่าย เรียกได้ว่าชาวเกาหลีเริ่มฝึกฝนจับตะเกียบกันเป็นก่อนที่จะจับดินสอเขียนเสียอีก ดังนั้นหากฝึกจับให้ถนัดจะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ช่วยให้ทานอาหารได้อย่างสะดวกสบายไม่แพ้ชาวเกาหลีกันเลยทีเดียว ส่วนวิธีการจับตะเกียบก็ไม่ยากเลย เพียงทำตาม 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. หนีบตะเกียบข้างหนึ่งด้วยง่ามนิ้วโป้ง โดยมีนิ้วนางและนิ้วก้อยรองรับอยู่
2. จับตะเกียบอีกข้างโดยใช้ปลายนิ้วโป้งและข้อแรกของนิ้วชี้
3. กางและหนีบตะเกียบโดยใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้ง

นอกจากนี้มีงานวิจัยออกมาด้วยว่า การจับตะเกียบโลหะอย่างถูกวิธีนั้น จะมีการใช้ข้อต่อบริเวณนิ้ว 30 จุดและใช้กล้ามเนื้อนิ้วจำนวน 50 มัดพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นกลีบสมองให้เกิดการพัฒนาวงจรประสาทตั้งแต่ยังเด็กและป้องกันโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 5 เมนูเกาหลีที่น่าสนใจ พร้อมวิธีทำอย่างง่าย ที่ไม่ว่าจะนึกถึงเมื่อไหร่ก็ชวนให้หิวขึ้นมาทุกที สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากทดลองทำอาหารเกาหลีทานเองที่บ้าน สามารถซื้อวัตถุดิบไปทำเองที่บ้านง่ายๆได้ที่ Foodland Supermarket แหล่งรวมวัตถุดิบหลากหลายจากต่างประเทศ ตั้งอยู่ที่ชั้น B ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา และสำหรับใครที่อยากเลือกอิ่มท้องแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องทำเองให้เสียเวลาด้วยอาหารหลากหลายเมนูที่ร้านอาหารเกาหลีแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้าน Hongdae Staion ร้านอาหารเกาหลีต้นตำรับ, Hollys Coffee ร้านบิงซูชื่อดังจากเกาหลี ตั้งอยู่ที่ ชั้น B และ KBBQ ปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์เกาหลี ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ศูนย์รวมร้านอาหารนานาชาติ Food Destination ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารคาว หวาน เครื่องดื่ม และอาหารเพื่อสุขภาพทั้ง ไทยและต่างประเทศ ที่พร้อมเติมความอิ่มอร่อยให้ทุก ๆ คนตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา

https://www.hallyukstar.com/2019/08/05/what-is-jjapa-guri-in-parasite/ https://www.bkkmenu.com/eat/stories/korean-dishes-from-korean-series.html http://redefiningmillennials.blogspot.com/2017/01/5-must-try-korean-cafes-from-your.html https://www.youtube.com/watch?v=dkJhLx7sbZ0
https://bit.ly/3yw9OXz