3 เคล็ดลับดูแลตัวเองเมื่อต้อง Work From Home
ไม่มีกำหนดอายุ

3 เคล็ดลับดูแลตัวเองเมื่อต้อง Work From Home

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงนี้หลายๆคนอาจจะต้องเปลี่ยนจากการนั่งทำงานที่ออฟฟิศไปทำงานที่บ้านในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ระบาดแบบนี้ และดูไม่มีวี่แววที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย จนบางครั้งชีวิตการทำงานที่บ้านอาจจะก็ให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลกับคุณโดยไม่รู้ตัว วันนี้ The Street Share จะมาแชร์ 3 เคล็ดลับในการดูแลตัวเองระหว่างที่คุณต้องนั่งทำงานที่บ้านกัน

 

สร้างขอบเขตเวลาในการทำงานที่ชัดเจน

การทำงานที่บ้านอาจจะทำให้คุณทำงานล่วงเวลาไปแบบไม่รู้ตัว และอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคุณอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อสุขภาพจิตของคุณในขณะทำงานที่บ้านคือการสร้างขอบเขตเวลาในการทำงานของคุณ เพราะการทำงานจากที่บ้านสามารถเปลี่ยนเป็นการใช้ชีวิตในที่ทำงานได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นสร้างขอบเขตและแบ่งเวลาในการทำงานที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะอย่าลืมว่าคุณจะต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวของคุณด้วย เพื่อไปทำกิจกรรมด้านอื่นๆร่วมกับครอบครัว หรือ ทำกิจกรรมส่วนตัว เช่น การออกกำลังกายและการพักผ่อนเพื่อความผ่อนคลายของคุณ


 

อีกทั้งการทำงานที่บ้านอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลง การหาช่วงเวลาที่เหมาะสมออกมาเดินเล่นบริเวณรอบๆบ้านของคุณสัก 15 นาที ก็จะสามารถช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการช่วยเปลี่ยนบรรยากาศและอิริยาบถในการนั่งทำงาน และยังช่วยลดการเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย


ปรับเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านของคุณให้ตรงตามหลักสรีรศาสตร์

พนักงานประจำส่วนใหญ่ทำงานอย่างน้อย 160 ชั่วโมงต่อเดือนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตามหลักสรีรศาสตร์ เช่น โต๊ะทำงานและเก้าอี้ เป็นต้น เพื่อมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิผลและยังช่วยซัพพอร์ตสรีระของร่างกายมนุษย์ในขณะที่นั่งทำงานเป็นเวลานานๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่างๆตามมาเช่น ออฟฟิศซินโดรม หรือโรคกระดูกสันหลังกดทับ  จึงทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจให้กับเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยซัพพอร์ตร่างกายของพวกเขามากขึ้น 

Duy Huynh ผู้ก่อตั้ง Autonomous บริษัทออกแบบโต๊ะเก้าอี้และของใช้สำนักงานต่างๆที่ให้เข้ากับสรีรศาสตร์ของมนุษย์ กล่าวว่า การนอนทำงานบนโซฟาอาจทำให้หลังและคอของคุณเกิดอาการปวดได้ การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมเช่นเก้าอี้หมุนที่นุ่มสบาย โต๊ะทำงานที่กว้าง และคีย์บอร์ดทันสมัย สิ่งเหล่านี้ส่งผลดีต่อร่างกายและสุขภาพของคุณ  อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยต่างๆที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา และแว่นตาป้องกันแสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะช่วยป้องกันรังสีสีฟ้าอันตรายที่เล็ดลอดออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และการใช้แผ่นรองเมาส์แบบหุ้มเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงอาการปวดข้อมือ และหูฟังแบบตัดเสียงรบกวนจะช่วยให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย


บอกลาอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ

การสั่งพิซซ่าหรืออาหารจานด่วนมาทานที่บ้านอาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่ง่ายต่อการตัดสินใจและสะดวกรวดเร็ว แต่คุณควรคำนึงถึงผลเสียต่อสุขภาพที่จะตามมาด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบกับระบบการทำงานของสมองและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น Dr. Arthur Turovets ผู้ก่อตั้งสถาบันลดน้ำหนัก NJDiet แนะนำว่าเราควรให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพ และควรจัดตารางมื้ออาหารในแต่ละวันให้เหมาะสม เนื่องจากการทำงานอยู่ที่บ้านอาจจะทำให้คุณไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย จึงทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานน้อยลง และเป็นที่มาของไขมันสะสมในร่างกายที่มากจนเกินไป และนำมาซึ่งโรคอ้วนและอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในด้านอื่นๆตามมาดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และตรงตามหลักโภชนการก็จะช่วยให้ร่างกาย ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้ดีขึ้น อีกทั้งยังได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและตรงตามปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ

เห็นอย่างนี้แล้วเมื่อนำเคล็ดลับที่ 3 ประการนี้ไปปรับใช้ก็จะช่วยทำให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้นและส่งผลดีต่อองค์กรอีกด้วย

 

ที่มา: Forbes.com และ Harvard Business Review

Related