สไตล์การแต่งตัวผู้ชายมีอะไรบ้าง 7 แนวหลักสำหรับอัปเสน่ห์ของคุณ
ไม่มีกำหนดอายุ

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายมีอะไรบ้าง 7 แนวหลักสำหรับอัปเสน่ห์ของคุณ

สไตล์การแต่งตัวเป็นการบ่งบอก และสะท้อนความเป็นตัวเอง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่สามารถบอกถึงคาแรกเตอร์ได้อีกด้วย โดยแต่ละคนก็จะมีสไตล์การแต่งตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งปัจจุบันแฟชั่นเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ที่สำคัญแฟชั่นนั้น “ไม่มีถูกหรือผิด” แต่เป็นรสนิยมและความชอบส่วนตัว 


แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจ หรือหาความชอบของตัวเองไม่เจอ บทความนี้ ได้รวบรวมสไตล์การแต่งตัวผู้ชาย แบบต่างๆ มาให้ดูกัน 


สารบัญ สไตล์การแต่งตัวผู้ชายมีอะไรบ้าง 7 แนวหลักสำหรับอัปเสน่ห์ของคุณ


สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Smart Casual

 

1. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Smart Casual

Smart Casual เป็นการแต่งตัวที่กึ่งทางการ แม้จะไม่เต็มยศขนาดใส่สูท ผูกเนกไท แต่ก็ยังอยู่ในระดับทางการด้วยการเลือกกางเกงขายาว แมตซ์กับเสื้อเชิ้ต พร้อมทั้งอาจจะมีเสื้อคลุมตัวนอกที่ทางการขึ้นมาหน่อย ซึ่งให้ความรู้สึกสบายๆ ถือเป็นสไตล์ที่เหมาะกับเมืองไทย ที่มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ไม่ว่าจะไปออกเดทที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว หรือไปงานวันสำคัญของเพื่อนหรือญาติคนสนิทสไตล์ Smart Casual นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

  • เสื้อ

สำหรับสไตล์ Smart Casual จะหลีกเลี่ยงการสวมสูทที่มีความเป็นทางการ แต่จะเลือกเป็นเบลเซอร์ (Blazer) หรือแจ็กเก็ต (Jacket) เพื่อแมตซ์กับเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อโปโลตัวโปรด ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย

  • กางเกง

รูปแบบกางเกงที่หนุ่มสไตล์ Smart Casual ต้องมีติดตู้คือ กางเกงชิโน่ (Chinos) หรือกางเกงผ้าลินิน (Linen) ที่มีความเรียบง่าย แต่ก็ยังคงความสมาร์ทไว้ได้อย่างเหมาะสม แถมยังเป็นกางเกงที่สามารถระบายอากาศได้ดี ซึ่งเหมาะกับอากาศประเทศไทยอีกด้วย

  • รองเท้า

รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers) ถือเป็นรูปแบบรองเท้าที่เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Smart Casual เพราะมีความเป็นลำลอง กึ่งทางการ ที่สำคัญไม่ว่าจะแมตช์กับลุคแบบไหนก็ออกมาดูดี แต่หากคุณไม่ใช่สายโลฟเฟอร์ (Loafers) อาจจะเลือกสนีกเกอร์ (Sneakers) ในสไตล์เรียบง่าย อาจจะเน้นลักษณะที่เป็นหนัง สีพื้น ไม่มีลวดลายหรือสีสันที่ฉูดฉาดจนเกินไปก็ได้เช่นกัน

  • เครื่องประดับ

Smart Casual นับเป็นสไตล์ที่ไม่เน้นความเป็นทางการมากนัก เครื่องประดับก็อาจจะไม่จำต้องมีมากมาย เพียงแค่นาฬิกาสายหนังเรือนโปรด และกระเป๋าคลัชอีกสักใบ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Classic Menswear

 

2. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Classic Menswear

Classic Menswear เป็นสไตล์การแต่งตัวที่มีความเนี๊ยบกริบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง ไปจนถึงรองเท้าจะต้องมีความหรูหรา ดูดีในทุกๆ องศา เรียกได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษแบบไร้ที่ติ เมื่อสวมใส่แล้วทำให้รู้สึกดูมีอำนาจ น่าเกรงขาม นอกจากนี้สไตล์ Classic Menswear นับเป็นสไตล์ที่ผู้สวมใส่จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดในทุกๆ ดีเทลด้วย

  • เสื้อ

หัวใจหลักของ Classic Menswear คงหนีไม่พ้นเสื้อสูท Bespoke ที่จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญการของช่างฝีมือที่ให้ความสำคัญในเรื่อง Craftmanship เพื่อให้ได้สูทที่ตรงใจกับผู้สวมใส่ตั้งแต่เนื้อผ้า รูปแบบสูท โครงสูท ซับใน กระดุม หรือแม้กระทั่งเสื้อเชิ้ตเองหากคุณต้องการความเนี๊ยบแบบไร้ที่ติ การสั่งทำในลักษณะ Bespoke ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยทั่วไปเสื้อเชิ้ตที่จะพบในสไตล์ Classic Menswear คงหนีไม่พ้นเสื้อเชิ้ต Oxford สีขาวที่สามารถนำไปแมตช์ได้ดีกับสูททุกรูปแบบ ที่ใส่ออกมาแล้วมีความสง่างาม 

  • กางเกง

หมดปัญหาเรื่องการหากางเกงตัวโปรดให้กับหนุ่มสไตล์ Classic Menswear เพราะสำหรับการตัดสูททุกครั้งกางเกงก็นับเป็นหนึ่งในเซตที่จำเป็นจะต้องตัดคู่กับสูท เพื่อความเป๊ะอย่างไรที่ติ อีกทั้งช่วยให้ Total Look ดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยการใช้เนื้อผ้า เฉดสี รูปทรงในรูปแบบ Bespoke

  • รองเท้า

รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers) นับเป็นรองเท้าคู่ใจของหนุ่มสไตล์ Classic Menswear ที่บ่งบอกความเป็นทางการได้ในรูปทรงที่คุณต้องการ หากต้องการความสมบูรณ์แบบการหารองเท้าแบบ Bespoke ก็สามารถตอบโจทย์หนุ่ม Classic Menswear ได้เป็นอย่างดี

  • เครื่องประดับ

เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้ของหนุ่ม Classic Menswear คงหนีไม่พ้นเนกไทคู่ใจที่จะพร้อมเพิ่มสีสันความสนุกของหนุ่มๆ ได้อย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้ การเลือก Tie Bar เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเสริมภาพลักษณ์การผูกไทของคุณได้อย่างไรที่ติ อีกทั้งการเลือก Cufflink หรือกระดุมข้อมือ ที่แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ที่แทบจะไม่มีใครสังเกต แต่ก็เพิ่มความมีคลาสให้กับหนุ่มๆ ได้อย่างลงตัว

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Street

 

3. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Street

นับเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ไม่เน้นรูปแบบหรือพิธีรีตองมากนัก โดยเริ่มนิยมในช่วงค.ศ. 1990 ส่วนมากจะเน้นไปที่แนว Casual สวมใส่ในชีวิตประจำวันแบบทั่วไป นับเป็นสไตล์ที่สามารถบ่งบอกอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคลหรือแต่ละวัฒนธรรมย่อยได้เป็นอย่างดี แต่การแต่งตัวแนวสตรีท สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมชท์ได้หลากหลาย ดังนี้

  • เสื้อ

การแต่งตัวแนว Street นับว่าเป็นสไตล์ที่ไม่มีอะไรตายตัว โดยเฉพาะโทนสี ที่สามารถเลือกได้ตามความชอบส่วนบุคคล แต่จะเน้นไปที่การสวมเสื้อยืด หรือเสื้อฮู้ด รวมถึงเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวโอเวอร์ไซส์

  • กางเกง

แฟชั่นไม่มีวันตาย หนึ่งในวลีที่เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่ากางเกงทรงลุงหรือกางเกงขาบานจะกลับมาฮิตได้อีกครั้ง โดยเฉพาะสไตล์ Street นับเป็นอีกหนึ่งทรงกางเกงที่ฮิตเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะนำมาแมตช์กับอะไรก็ลงตัวไปเสียหมด หรือกางเกงคาร์โก้หรือกางเกงทรงกระบอกที่มาพร้อมกระเป๋าหลายช่องก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกของสาย Street ที่นอกจากจะเพิ่มความทะมัดทะแมงให้กับผู้สวมใส่แล้ว ยังเสริมลุคสุดคูลอีกด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือกางเกงยีนส์ทรงโอเวอร์ไซส์ เพียงแมตช์กับเสื้อหลวมๆ สักตัวก็ลงตัวสุดๆ

  • รองเท้า

รองเท้าของสาย Street คงหนีไม่พ้นสนีกเกอร์ ที่สามารถเลือกได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น สนีกเกอร์คลาสสิก สนีกเกอร์ข้อสูง และสนีกเกอร์ Chunky ก็สามารถสวมใส่แบบสตรีทแฟชั่นได้อย่างลงตัว 

  • เครื่องประดับ

เครื่องประดับสำหรับสาย Street นั้นสามารถนำมาแมชท์ได้อย่างไร้ขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประดับอย่างเครื่องเงิน หรือหมวกแบบต่างๆ เช่น หมวกไหมพรม หมวกบัคเก็ต และหมวกแก็ป อีกทั้งรูปแบบของกระเป๋าเองก็ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว อาจจะเลือกจากสไตล์ที่ชอบเป็นหลัก ไม่ว่าจะกระเป๋าสะพายข้าง หรือกระเป๋าเป้ก็ลงตัว

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Vintage

 

4. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Vintage

เก่าแต่เก๋า เก่าแต่ไม่แก่! ด้วยสไตล์ Vintage นับเป็นหนึ่งในสไตล์ที่เหนือกาลเวลา ไม่ว่ายุคสมัยไหนเราก็ต่างพบเห็นได้อยู่เสมอ นับเป็นสไตล์ที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ไม่ว่าจะเนรมิตรลุคไปในลักษณะที่เป็นทางการหรือกึ่งทางการก็ได้เช่นกัน 

  • เสื้อ

เสื้อยืดสีพื้นไร้ลายหรือเสื้อโปโลสีพื้นนับเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ต้องมีติดตู้สำหรับหนุ่มสาย Vintage ไม่ว่าจะเป็นแขนสั้นหรือแขนยาวก็ล้วนแมตช์ได้อย่างลงตัว หรือเพิ่มความมีสีสันให้กับตัวเองด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีสันสดใสหรือ Cuban Collar ไอเทมจากยุค 50’s หรือจะต้องการความเป็นสุภาพบุรษด้วยชุดเสื้อสูทสไตล์วินเทจเข้าเซตกับกางเกงที่เน้นความสบายอย่างผ้าลินิน ก็สามารถออกงานสำคัญๆ ได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน

  • กางเกง

หากต้องการความสบายเพียงนำกางเกงชีโน่มาแมตช์กับเสื้อยืดหรือเสื้อโปโลสีพื้นก็นับเป็นตัวเลือกที่ลงตัว สำหรับใครที่ต้องการบอกความเป็นวินเทจในยุค 50’s อาจจะนำกางเกงยีนส์ตัวโปรดมาแมตช์กับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีสันสดใสหรือ Cuban Collar ก็เป็นอะไรที่คลาสสิก หากอยากเพิ่มความแตกต่าง และความมีสีสันการนำกางเกงลายสก็อตมาแมตช์ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

  • รองเท้า

รองเท้าสไตล์ Vintage นั้นสามารถเลือกได้ตามความชอบและทรงที่ต้องการ โดยส่วนมากจะเป็นรองเท้าทรง Loafers, Sneakers, Boatshoes และ Oxfords นับเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการแต่งตัวสไตล์ Vintage ที่จะเน้นไปในโทนสีพื้นอย่างขาว ดำ เทา ครีม และน้ำตาล เพื่อส่งกลิ่นอายความคลาสสิกที่เหนือกาลเวลาได้อย่างไร้รอยต่อ

  • เครื่องประดับ

ไอเทมอย่างเครื่องประดับสำหรับสาย Vintage นับว่ามีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเน้นไปทางเครื่องเงิน หรือสายหนังก็ขึ้นอยู่กับความชอบ หากต้องการลุค Vintage แบบเห็นแวบแรกก็สามารถรู้ได้เลย การนำหมวกทรงปานามาหรือหมวกทรงเบเรต์มาแมตช์ก็นับเป็นอีกหนึ่งในไอเทมที่สาย Vintage ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถนำผ้าเช็ดหน้าที่มีสีสันหรือลวดลายมาเป็นผ้าพันเพิ่มกิมมิกให้ Total Look ของคุณได้อีกด้วย
สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Sport Wear

 

5. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Sport Wear

สไตล์ Sport เกิดขึ้นในยุค 80’s ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเฟื่องฟูของวงการกีฬา จึงเกิดกระแสการแต่งตัวที่มีความคล้ายนักกีฬาเกิดขึ้น อีกทั้งยังกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในยุค 90’s มาจวบจนถึงปัจจุบัน 

  • เสื้อ

เสื้อผ้าในสไตล์ Sport Wear มักนิยมเป็นเสื้อวอร์มแขนยาว ทั้งนี้อาจจะเลือกตามรูปแบบ และความชอบ หากต้องการลุค Sport การสวมใส่เสื้อวอร์มโอเวอร์ไซส์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หากใครต้องการความทะมัดทะแมงดู Smart Look อาจจะต้องเลือกไซส์ที่พอดีกับตัว ไม่ว่าจะสวมแบบรูดซิปหรือใส่ทับกับเสื้อยืดก็ขึ้นอยู่กับความชอบ หรือจะเป็นการนำ T-shirt แบบโอเวอร์ไซส์แขนสั้นในรูปแบบเสื้อบาสก็เท่ไปอีกแบบ

  • กางเกง

ทรงกางเกงยอดฮิตของ Sportswear คงหนีไม่พ้น Jogger Pants จุดเด่นกางเกงวอร์ม เป็นกางเกงทรงเข้ารูปและการจั๊มพ์บริเวณปลายขา เพื่อให้ดูลุค Sport จำเป็นต้องเลือกไซส์ที่มีขนาดพอดีกับตัว หรือจะเลือกสวมใส่เป็นกางเกง Track Pants ซึ่งเป็นกางเกงวอร์มรูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นคือมีลายพาดแถบข้าง ตั้งแต่ช่วงเอวไปจนถึงปลายขากางเกง โดยมี 2 รูปทรงให้เลือกได้แก่ Slim Fit ที่ค่อนข้างเข้ารูปและ Straight ที่เป็นขาทรงกระบอก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ อีกทั้งยังมีให้เลือกได้ทั้งขาสั้นขายาว

  • รองเท้า

รองเท้า Sportswear คงหนีไม่พ้นสนีกเกอร์ (Sneakers) แต่ทั้งนี้ไม่ใช่สนีกเกอร์ทุกรูปแบบที่จะนำมาแมตช์กับ Sport Look ได้ อาจจำเป็นต้องเลือกรูปแบบรองเท้ามีให้กลิ่นอายความเป็นนักกีฬา ในปัจจุบันนั้นแบรนด์รองเท้าต่างๆ ต่างจัดจำหน่ายในลักษณะนี้อย่างแพร่หลาย ให้คุณเลือกแมตช์ได้แบบไม่จำเจ

  • เครื่องประดับ

เครื่องประดับสำหรับหนุ่มสาย Sport คงหนีไม่พ้นนาฬิกา Sport Watch ที่ช่วยให้ลุคมีความเป็นนักกีฬา หากหนุ่มคนไหนอยากไปให้สุดการนำ Headband หรือที่คาดหัวสำหรับนักกีฬาก็จะยิ่งทำให้ลุค Sport ของคุณดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Korean Minimal

 

6. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Korean Minimal

เรียบง่ายตามสไตล์หนุ่มเกาหลีกับลุค Korean Minimal นับว่าเป็นธีมที่เรียบง่าย ไม่ว่าหนุ่มๆ คนไหนก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยหัวใจหลักของสไตล์ Minimal ก็คือรูปแบบ และสี ที่อาจจะมีเพียง 1-2 โทนสี และลวดลายที่เรียบง่ายที่สุดอย่างลายทางก็เพียงพอแล้ว

  • เสื้อ

สไตล์เสื้อของหนุ่มสไตล์ Minimal จะเน้นไปที่เสื้อเชื้ตคอกลม หรือสีเชิ้ตที่ไม่เน้นสีสัน โดยจะเน้นสีพื้นเป็นหลัก หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกสีพื้นโทนไหนให้เหมาะกับคุณ สามารถเลือกสีได้ตาม Personal Color ผู้ชาย ที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงลวดลาย และสีสันที่จัดจ้าน แต่เป็นกราฟิกในรูปแบบตัวอักษร หรือลายทางได้

  • กางเกง

กางเกงสไตล์ Minimal จะเน้นไปที่ความเรียบง่ายของรูปทรง และสีสันเป็นหลัก โดยสามารถเลือกสวมใส่ได้ทั้งขาสั้นและขายาว วัสดุที่เลือกก็ไม่จำเป็นต้องทางการมากนัก แค่รูปแบบผ้าหรือยีนส์ที่มี Pattarn เรียบๆ ก็แมตช์กันได้อย่างลงตัว

  • รองเท้า

สำหรับรองเท้าที่เหมาะกับแนวแต่งตัวแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นรองเท้าสนีกเกอร์ (Sneaker) ที่สวมใส่สบาย แต่เน้นเลือกใช้รองเท้าที่มีโทนสีพื้นเป็นหลักอย่างสีเทา สีขาว สีกรมท่า และสีดำ เป็นต้น

  • เครื่องประดับ

นับเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ไม่เน้นความอู่ฟู่ ทั้งนี้ เครื่องประดับที่นำมาสวมใส่นั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล บางคนอาจจะใส่สร้อยเส้นเล็กๆ หรือสวมแหวนเกลี้ยงๆ สักวง แต่จะไม่สวมใส่เครื่องประดับก็สามารถทำได้เช่นกัน

สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Preppy

 

7. สไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Preppy

ดื่มด่ำกับการเป็นหนุ่ม High School กับแฟชั่น Preppy ที่มีต้นกำเนิดจากนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา จนกลายมาเป็นแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของคนชนชั้นกลางระดับสูงไปถึงชนชั้นสูง ที่รู้จักในชื่อสไตล์ “Ivy League” หรือการแต่งตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Princeton และ Yale เป็นต้น

  • เสื้อ

การใส่เสื้อ 2 ชั้นนับเป็นเอกลักษณ์ของสไตล์ Preppy โดยชั้นแรกจะเป็นเสื้อเชื้ตคอปกหรือเสื้อโปโล สวมทับด้วยเสื้อไหมพรมหรือสเวตเตอร์ Cable Knit โดยอาจจะนำแขนเสื้อมาพันหลวมๆ ไว้รอบบ่าก็ให้ความรู้สึกของหนุ่ม Preppy ที่เพิ่งออกมาจากคลับเทนนิสหรือเสื้อ Sport Jacket เพิ่มลุคความเป็นตัวเก๋า 

  • กางเกง

สำหรับประเทศไทยการแต่งตัวสไตล์ Preppy อาจจะดูร้อนเกินไป ดังนั้น ควรเลือกกางเกงชีโน่ (Chinos) ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อที่การสวมใส่จะได้เหมาะกับสภาพพื้นที่ และสนุกไปกับการแต่งตัวได้อย่างเต็มที่

  • รองเท้า

รองเท้าสไตล์ Preppy จะเน้นไปที่รองเท้าหนังแบบ Slip On หรือโลฟเฟอร์ (Loafers) หากต้องการใส่สนีกเกอร์ (Sneakers) อาจจะต้องเลือกรูปแบบที่มีสีสันไม่ฉูดฉาด ดีไซน์เรียบ เน้นความคลาสสิก

  • เครื่องประดับ

นับเป็นสไตล์ที่แทบจะไม่จำเป็นต้องสวมใส่เครื่องประดับเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสไตล์ที่จะเน้นความเรียบง่าย โดยจะเน้นเพียงโทนสีอย่าง สีกรมท่า สีน้ำเงิน สีขาว และสีครีม เป็นต้น หรืออาจจะเพิ่มแว่นตาสักหน่อย ก็จะช่วยทำให้มีความเนิร์ดมากขึ้น 

การแต่งตัวเป็นรสนิยมและความชอบ แต่ละคนก็จะมีรูปแบบในการแต่งตัวแตกต่างกันออกไป แม้จะเป็นผู้ชายก็สามารถสนุกกับการแต่งตัวได้ ไม่ว่าจะเลือกจับนั้นนี้มามิกซ์แอนด์แมตช์ให้ดูดี และลงตัว สำหรับหนุ่มๆ ที่อยากจะเปลี่ยนลุค หาแนวทางในการแต่งตัว แต่ไม่ชำนาญกับสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบต่างๆ เลย และมีคำถามว่าลุคแต่งตัวผู้ชายมีอะไรบ้าง หรือมีแนวแต่งตัวผู้ชายอะไรบ้าง บทความนี้ก็ได้แนะนำสไตล์การแต่งตัวชายไปแล้วถึง 7 สไตล์ ซึ่งสามารถลองแต่งได้ตามชอบได้เลย แต่สำหรับใครที่มองหาสถานที่ซื้อเสื้อผ้าต้องแวะมาที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center แหล่งรวมแฟชั่นในย่านรัชดา ที่มีร้านขายเสื้อผ้าให้เลือกช็อปหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น Minishop Zone และ Discount Outlet ใน โซน Activity Center / Shopping & Fashion ชั้น 2 นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีตลาดนัดกลางคืนเดอะ สตรีท รัชดา ที่มีเสื้อผ้าให้เลือกหลากหลายสไตล์ ซึ่งสามารถตอบโจทย์การแต่งตัวได้หลายลุคแน่นอน
 

Related