ขี้เกียจออกกำลังกายฟังทางนี้! 9 วิธีสร้างแรงบันดาลใจและเริ่มต้นง่ายๆ
ไม่มีกำหนดอายุ

ขี้เกียจออกกำลังกายฟังทางนี้! 9 วิธีสร้างแรงบันดาลใจและเริ่มต้นง่ายๆ

การออกกำลังกาย คือ กิจกรรมทางร่ายกายที่จะช่วยเพิ่ม หรือรักษาสมรรถภาพทางร่างกายได้ รวมถึงรักษาสุขภาพโดยรวม และร่างกายที่สมบูรณ์ไม่เจ็บไข้ นอกจากนี้ยังช่วยให้หุ่นเฟิร์ม ทำอะไรได้ไว กระฉับกระเฉง ซึ่งการไม่ออกกำลังกายมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย เสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เมื่อเทียบกับคนที่ออกกำลังกายแล้วแต่การจะมี passion ลุกขึ้นมาออกกำลังกายนั้นก็ยากเหลือเกิน แค่คิดว่าจะต้องเหนื่อยแค่ไหนก็ขี้เกียจออกกำลังกายแล้ว ทำยังไงดีล่ะ? อย่ากังวลไปเลย 

ในบทความนี้ได้นำวิธีการหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายต่างๆ ที่เหมาะสำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย การได้รับแรงบันดาลใจที่ดีในการออกกำลังกาย จะสามารถทำให้คนขี้เกียจออกกำลังกาย หันมามีกำลังใจในการออกกำลังกายได้ มาดู 9 วิธี สร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย เริ่มต้นได้ง่ายๆ ตามนี้เลย!


สารบัญ ขี้เกียจออกกำลังกายฟังทางนี้! 9 วิธีสร้างแรงบันดาลใจและเริ่มต้นง่ายๆ


 อย่ามองว่าเป็นการออกกำลังกาย

1. อย่ามองว่าเป็นการออกกำลังกาย

การที่เรามองว่าเป็นการออกกำลังกาย แค่คิดก็รู้สึกเหนื่อย รู้สึกขี้เกียจออกกำลังกายขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ดู ให้มันไม่ใช่การออกกำลังกายแสนน่าเบื่อ ให้คิดว่ามันคือการไปเที่ยว ไปเล่นสนุก การออกไปพบปะเพื่อนฝูง หลายๆ คนอาจตั้งเป้าหมายว่า จะออกกำลังกายเพื่อลดหุ่น หรือออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ นั่นอาจทำให้คุณมีความมุ่งมั่น และตั้งใจได้ในช่วงแรก แต่คนเราเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกท้อ หากสิ่งนั้นไม่ได้น่าดึงดูดมากพอ แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนการออกกำลังกายให้เป็นความชอบของเราล่ะ

โดยคุณอาจจะเริ่มจากกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ที่ทำให้ได้ออกกำลังกายไปด้วย เช่น บางคนอาจจะชอบวิ่ง บางคนชอบว่ายน้ำ หรือบางคนก็ชอบเต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ได้ทั้งความสนุก และร่างกายแข็งแรงไปด้วย เพราะฉะนั้นลองหาวิธีการออกกำลังกายที่ชอบให้ได้ และนั่นจะช่วยสร้างแรงบันดาลให้คุณเอง

เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเป็นการออกกำลังกาย

2. เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเป็นการออกกำลังกาย

คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งที่คุณต้องทำอยู่เป็นประจำให้เป็นการออกกำลังกายได้ เพราะการออกกำลังกายไม่จำเป็นว่าจะต้องวิ่ง หรือเข้าฟิตเนสเท่านั้น อาจจะเปลี่ยนงานบ้านให้เป็นการออกกำลังกาย เช่นการซับผ้า ขนผ้าขึ้นบันได ทิ้งขยะ จัดห้อง สิ่งเหล่านี้สามารถเรียกเหงื่อได้อย่างมหาศาล และยังได้ผลดีคูณ 2 บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังได้ร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย

ซึ่งมีกิจกรรมอีกหลายอย่างในชีวิตประจำวันที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ดังนี้

  • ซักผ้าด้วยมือ รวมไปถึงสะบัดผ้าตากแดด 1 ชั่วโมง ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 240 kcal.
  • กวาดพื้น ทุกๆ 30 นาที ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 200 kcal.
  • เดินเล่น 30 นาที ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 120-170 kcal.
  • พาสุนัขไปเดินเล่น ทุกๆ 25 นาที ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 100 kcal.
  • ทำงานบ้าน เช่น ถูบ้าน ปัดกวาด ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 200-400 kcal.
  • การทำอาหารเย็น อยู่หน้าเตาเป็นเวลา 40 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 103 kcal.
  • ล้างจานชามกองโต เป็นเวลา 30 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 89 kcal.

เห็นไหมว่าแค่กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากมายเลยทีเดียว

ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก

3. ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก

การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องจริงจังตลอดเวลา การหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย และสนุกกับมันได้ ซึ่งคุณอาจจะเริ่มออกกำลังกายจากสิ่งที่ชอบ หรือรูปการออกกำลังที่ตัวเองถนัด 

มีกิจกรรมหรือกีฬามากมายที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังช่วยเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วย จะมีอะไรบ้าง ดังนี้

  • ศิลปะป้องกันตัว เช่น มวยไทย เป็นการเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกาย จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ทุกส่วน แถมยังสนุก มันส์สุดเหวี่ยง หลายๆ คนเลยเลือกการต่อยมวยลดน้ำหนัก
  • การเต้น Cover dance เป็นอีกวิธีการออกกำลังกายที่ขยับร่างกายได้ครบทุกส่วน แถมเป็นการออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ ด้วยเพลงจังหวะมันส์ๆ และเปลี่ยนท่าทางตลอดเวลา เรียกได้ว่ามีแต่ความสนุกสนาน และได้เบิร์นแคลอรี่กันแบบจุกๆ 
  • กระโดดแทรมโพลีน เป็นการออกกำลังกายที่สู้กับแรงโน้มถ่วง สร้างความตื่นเต้น และช่วยเผาผลาญพลังงานได้มาก แถมยังสนุก เพลิดเพลินจนลืมเวลาได้เลย
  • ปีนผาจำลอง เป็นที่นิยมกันมากขึ้นในปัจจุบัน และเป็นกิจกรรมที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก เป็นการแข่งขันกับตัวเอง เอาชนะตัวเองด้วยผาจำลองที่ตั้งสูงอยู่ตรงหน้า

4. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

การมีเป้าหมายเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ตัวเราได้ ยิ่งเราตั้งเป้าหมายได้ชัดเจน ความตั้งใจจะเพิ่มมากขึ้น และการมีเป้าหมายที่ดีจะช่วยทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำต่อ โดยอาจจะเริ่มจากการตั้งเป้าหมายง่ายๆ ก่อน เช่น อยากมีหน้าท้องรูป 11 เพื่อให้ใส่เสื้อเอวลอย หรือชุดว่ายน้ำ โชว์หน้าท้องได้สวยๆ และยังมีอีกหลายเป้าหมายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ยกตัวอย่างเช่น

  • เพื่อสุขภาพร่างกาย เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เป็นผลดีในระยะยาว และไม่จำเป็นต้องหักโหม แค่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
  • เพื่อหุ่นที่ดี สามารถใส่เสื้อผ้าที่ชอบให้ดูดีได้ ร่างกายสมส่วน เดินไปที่ไหนก็มีแต่ความมั่นใจ ถ่ายรูปอวดลงโซเชียล เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้อีกมากมาย
  • เพื่อความฝันในอาชีพ เช่น นางแบบ นายแบบ เป็นต้น
  • เพื่อหาแฟน หรืออาจฟิตหุ่นเพื่อคนรัก บางคนอาจจะอยากดูดีที่สุดในสายตาคนรัก

พึงระวังไว้ว่า อย่าตั้งเป้าหมายที่ยากจนเกินไป เพราะนั่นอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำตามเป้าได้ รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว แล้วส่งให้คุณหยุดออกกำลังกายได้ ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร ให้คิดไว้เสอมว่า การออกกำลังกายก็ยังเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายของคุณ

บอกคนรอบข้าง หาพยานคอยกระตุ้น 

5. บอกคนรอบข้าง หาพยานคอยกระตุ้น 

แรงจูงใจในการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือเพื่อน เพื่อนจะเป็นคนที่คอยสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ เพื่อนหรือคนสนิทจะคอยเป็นแรงกระตุ้นที่ดีเยี่ยม เพราะนั่นอาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณต้องไปออกกำลังกาย แต่คุณจะอยากไปด้วยแรงดึงดูดจากเพื่อน และการมีคนคอยเชียร์ คอยให้กำลังใจนั้น จะทำให้คุณรู้สึกมีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้น

นอกจากนี้ การวิจัยยังแนะนำให้ผู้คนออกกำลังกายกับเพื่อหรือครอบครัว เพราะจะทำให้ออกกำลังกายได้นานมากขึ้น มากกว่าการออกกำลังกายคนเดียว หากต้องการการออกกำลังกายแบบเคร่งหน่อย เพราะเผื่อว่าการออกกำลังกายกับเพื่อนจะทำให้เล่นกันมากไป คุณอาจจะจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว ที่คอยเตือน คอยให้กำลังใจ ชี้แนะสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ คอยเช็กตารางออกกำลังกายให้คุณ เป็นต้น

สมัครสมาชิก หรือสมัครคลาสออกกำลังกาย

6. สมัครสมาชิก หรือสมัครคลาสออกกำลังกาย

สภาพแวดล้อมมีผลให้เป็นแรงกระตุ้นในการออกกำลังกายได้มาก การมีสถานที่ที่น่าหลงใหล เหมาะแก่การออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส หรือคลาสออกกำลังกาย ที่มีการให้สมัครสมาชิก หรือซื้อคอร์สออกกำลังกาย เป็นต้น การมีข้อผูกมัดทางการเงิน เป็นแรงกระตุ้นให้คุณปฎิบัติตามได้มากขึ้น หากมีวันหมดอายุด้วยละก็ นี่เป็นทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม มนุษย์มีแรงจูงใจ ต่อการกลัวสูญเสีย เป็นหลักจิตวิทยาทางการตลาด เป็นการกระตุ้นให้คนเราทำอะไรบางอย่าง เพราะกลัวจะเสียบางสิ่งไป

และการไปเข้าคลาสออกกำลังกาย จะทำให้เราเห็นคนอื่น ซึ่งบางคนก็แข็งแรง จะเป็นจุดที่เป็นแรงจูงใจให้เราอยากแข็งแรงให้ได้แบบเขาได้เช่นกัน คนอื่นทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ เป็นต้น

 เปลี่ยนการออกกำลังกายธรรมดาๆ ให้เป็นคอนเทนต์

7. เปลี่ยนการออกกำลังกายธรรมดาๆ ให้เป็นคอนเทนต์

สายโซเชียลมีเดียที่ชอบถ่ายรูปลงแอปพลิเคชันต่างๆ อย่างการได้ใส่ชุดออกกำลังกายสวยๆ ถ่ายรูป หรือบางทีไปสิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ช่วงพระอาทิตย์กำลังขึ้น อาจได้รูปพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ลงโซเชียลได้ หรือถ่ายรูปตัวเองขณะอยู่ในฟิตเนสมาออกกำลังกาย

บางสถานที่ที่เราไปออกกำลังกายอาจจะมีวิวที่สวย หรือได้แวะร้านคาเฟ่น่ารักๆ แถวนั้น เจอแมวแปลกหน้าเข้ามาอ้อน ได้ถ่ายเก็บเอาไว้ นอกจากจะได้มาออกกำลังกายแล้ว ยังได้รับพลังงานดีดีส่งต่อให้ผู้คนต่อได้อีกในโซเชียลมีเดีย บางคนต่อให้ขี้เกียจออกกำลังกายแค่ไหน แต่การได้มาเจอวิวสวยๆ นั้นก็คุ้มมากๆ แล้ว

8. อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง

เมื่อคุณสามารถออกกำลังกายได้ตามที่คุณกำหนด คุณสามารถให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อเสื้อผ้าหรือรองเท้าใหม่ เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณควรได้รับ เสื้อนั้นอาจจะเป็นเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกาย หรือรองเท้าออกกำลังกายที่ช่วยสนับสนุนคุณในด้านการออกกำลังกายก็ได้เช่นกัน

การให้รางวัลตัวเองจะช่วยทำให้เรามีแรงจูงใจในการออกกำลังกายต่อ แถมเมื่อเราทำได้สำเร็จตามเป้า นั่นจะสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองด้วย แถมยังทำให้คุณรู้สึกหายเหนื่อยเมื่อเห็นรางวัลของตัวเองด้วยนะ

ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น

9. ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น

ภาระหน้าที่ที่ต้องทำของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางวันคุณอาจจะขี้เกียจออกกำลังกาย ซึ่งในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีไม่จำเป็นจะต้องทำทุกวันก็ได้ ซึ่งคุณอาจจะกำหนดเวลาเป็นออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง หากวันไหนเจอศึกหนักหรือวันแดงเดือด วันนั้นคุณก็อาจจะพักก่อนได้ โดยเลื่อนไปเป็นอีกวันนึง แต่ให้คงจำนวนที่กำหนดเอาไว้

ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น มันจะคล้ายๆ กับระบบการทำงาน หากว่าต้องทำตามกำหนดการเป๊ะๆ จะส่งผลให้เกิดความกดดัน และเกิดความเครียดตามมาได้ ซึ่งอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่สนุกกับสิ่งที่ทำแล้ว และจะยิ่งทำให้รู้สึกขี้เกียจมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นการพัก หรือสร้างกำหนดการตามที่ตัวเองไหว จะช่วยลดความเครียดลงไปได้เยอะเลย

สรุป

สำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกายแล้ว การเริ่มต้นออกกำลังกายมันอาจจะยากในช่วงแรก แต่เมื่อเราได้อดทนกับตัวเอง และผ่านช่วงเวลามาระยะนึงแล้ว ภายหลังคุณจะเป็นคนออกกำลังกายเป็นกิจวัตรประจำวัน การหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเมื่อคุณทำสำเร็จ คุณยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายให้ผู้อื่นต่อได้อีกด้วย คุณอาจจะรู้สึกขี้เกียจออกกำลังกาย แต่อยากให้รู้ไว้ว่าการออกกำลังกายนั้นจะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีทั้งด้านร่างกาย และความรู้สึกภายใน 

สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับออกกำลังกายได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถมาได้ที่ Jetts Fitness ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วน Activity Center ที่ครบเครื่องทุกกิจกรรม ที่ทำให้คุณที่ต่อให้ขี้เกียจออกกำลังกายแค่ไหน ก็จะลุกขึ้นมาจอยกับกิจกรรมเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน หรือหากใครชอบเล่นกีฬา The Street Arena สนามกีฬาในร่มก็ถือว่าตอบโจทย์ไม่แพ้กัน เพราะสามารถพาเพื่อนๆ มาเล่นกีฬาด้วยกันได้อย่างไม่น่าเบื่อ สุดท้ายเป็น MTM Muaythai Fitness ชั้น 3 เหมาะสำหรับคนที่สนใจฟิตแอนด์เบิร์นด้วยกีฬามวยไทย ซึ่งไม่ว่าใครจะสนใจการออกกำลังกายแบบไหน ก็มารวมตัวกันได้ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา

Related