วิธีบำรุงผม แก้ปัญหาผมเสีย ให้กลับมาสวยวิ้งค์!
1 เม.ย. 2565 - 31 ธ.ค. 2573

วิธีบำรุงผม แก้ปัญหาผมเสีย ให้กลับมาสวยวิ้งค์!

ผมขาดน้ำหนัก ผมแห้ง ผมชี้ฟู ปัญหาเรื่องผมที่ใครหลายๆคนกำลังเผชิญอยู่ เพราะผมชี้ฟู ขาดน้ำหนัก ทำให้ผมจัดทรงยาก จะทำทรงไหนก็ไม่สวย แถมยังทำให้ไม่มั่นใจอีกต่างหาก มาดูสาเหตุของผมแห้งชี้ฟู และวิธีบำรุงผมที่ทำให้ผมที่ขาดน้ำหนัก กลับมาสวยวิ้งค์อย่างเป็นธรรมชาติกัน

สาเหตุผมขาดชี้ฟู

สาเหตุของผมชี้ฟู ผมแห้งเสีย ขาดน้ำหนัก

สาเหตุของผมอ่อนแอ แห้งเสีย ชี้ฟู และขาดน้ำหนัก มักเกิดจากผมที่ถูกทำลายจากสารเคมี การสูญเสียความชุ่มชื้นในเส้นผม หรือมีสารอาหารไปเลี้ยงเส้นผมไม่เพียงพอ รวมถึงปัจจัยต่างๆที่เป็นสาเหตุของผมขาดชี้ฟูอื่นๆ อาทิ

  • โดนแสงแดดมากเกินไป
  • ปล่อยให้ผมสัมผัสกับน้ำคลอรีนแล้วไม่ล้าง หรือสระผมให้สะอาด
  • สระผมบ่อยเกินไป
  • ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือจัดแต่งทรงผม อย่างการหนีบ ทำลอน หรือใช้สเปรย์จัดแต่งผม
  • ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมที่มีสารเคมีแรงเกินไป
  • การมัดผมแน่นเกินไป

วิธีบำรุงผม

วิธีบำรุงผมเสียให้เป็นผมสวย

ปัญหาผมแห้งเสีย ขาดชี้ฟู อาจทำให้ใครหลายๆคนขาดความมั่นใจ สำหรับผู้ที่อยากเพิ่มความมั่นใจด้วยการมีผมเงางามสละสลวยและสุขภาพดี วันนี้เรามี 10 วิธีบำรุงเส้นผม เปลี่ยนผมเสียให้เป็นผมสวยมาฝากกัน

1. บำรุงด้วยน้ำมันอุ่น

ใช้น้ำมันนวดบำรุงศีรษะ อย่างน้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมันละหุ่ง, น้ำมันโจโจบา หรือน้ำมันข้าวโพด เพราะเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยวิตามินอี และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปิดผนึกผมที่แห้งเสีย ให้มีความชุ่มชื้น และช่วยบำรุงผมที่เสียหายได้ เพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และช่วยทำให้เส้นผมมีน้ำหนักมากขึ้น

วิธีบำรุงผมเสียด้วยน้ำมันอุ่น มีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมน้ำมันครึ่งถ้วยตวง แล้วอุ่นน้ำมันบนเตาพอร้อนนิด ๆ
  2. นวดเบา ๆ ลงบนเส้นผมสักครู่
  3. คลุมผมด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ
  4. ทิ้งไว้ 30-45 นาที หรือข้ามคืน
  5. สระผมตามปกติด้วยแชมพูและครีมนวด

2. เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะกับประเภทผม

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เป็นออร์แกนิคที่ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ผมขาดชี้ฟูโดยเฉพาะ และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของซัลเฟต และควรสระผมแค่อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง เพื่อให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมา

3. ใช้เบียร์เป็นทรีตเม้นต์บำรุงผมแห้ง

เบียร์มีโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมหนังกำพร้าของเส้นผมทำให้เส้นผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม ลองใช้เบียร์ในการหมักผม หรือนำใส่ขวดสเปรย์เอาไว้ฉีดบนเส้นผม หลังสระผมเสร็จ แล้วปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติ เบียร์จะช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามโดยไม่ทิ้งกลิ่นไว้ หากผมแห้ง

4. หมักผมด้วยเจลาติน

เจลาตินที่เรานำมาทำวุ้น หรือเยลลี่ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับเส้นผม ช่วยเคลือบเส้นผมและให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผม ให้เส้นผมเรียบสวยและเงางาม วิธีบำรุงผมด้วยเจลาติน มีวิธีการเตรียมอุปกรณ์ดังนี้

  1. ผสมเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย
  2. ทิ้งไว้ 5 นาทีเพื่อให้เจลาตินเซ็ตตัว
  3. เติมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (แอปเปิลไซเดอร์) 1 ช้อนชาและน้ำมันหอมระเหย 6 หยด เช่น ดอกมะลิ ลาเวนเดอร์ หรือโรสแมรี่ลงไปผสมและคนให้เข้ากัน
  4. ล้างผมให้สะอาด และหมักผมด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้เป็นเวลา 10 นาที
  5. ล้างผมด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง (น้ำไม่ควรร้อนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ผมแห้งกว่าเดิม)

5. หมักผมด้วยอะโวคาโด และไข่ไก่

ผลอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน A, วิตามิน E, ไขมันอิ่มตัว และแร่ธาตุ ซึ่งช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเสริมสร้างความแข็งแรง เพียงแค่นำอะโวคาโดมาบดเข้ากับไข่ไก่ 1 ฟอง แล้วชโลมส่วนผสมลงบนผมเปียกเป็นเวลา 20 นาที จากนั้นล้างผมด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด

6. หมักผมด้วยกล้วย

กล้วยมีโพแทสเซียม และมีความชุ่มชื้นสูง เหมาะสำหรับการรักษาผมแห้ง เพราะกล้วยจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมแตกปลาย ทำให้ผมนุ่ม และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผมได้ วิธีบำรุงผมด้วยกล้วยก็ง่าย ๆ แค่บดกล้วยหนึ่งลูกแล้วเกลี่ยให้ทั่วผมตั้งแต่โคนจรดปลาย ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ยิ่งถ้าเป็นกล้วยช้ำ ๆ และไม่สามารถกินได้ เอามาหมักผมแทนก็ถือเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

7. การรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม

อาหารที่ดี นอกจากจะบำรุงสุขภาพแล้ว ยังช่วยบำรุงเส้นผมของเราด้วย ควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ จะทำให้เส้นผมดูมีสุขภาพดีและเงางามขึ้นได้ อาทิ ปลาที่มีไขมันดี จำพวกปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่า, หอยนางรม, บลูเบอร์รี่, มะเขือเทศ, วอลนัท, บร็อคโคลี, ถั่วแดง เป็นต้น

8. กินอาหารเสริม หรือวิตามิน

หากใครที่คิดว่าการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอาจจะยังไม่เพียงพอ ก็ลองกินอาหารเสริมเพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามได้ อย่างเช่น

  • โอเมก้า-3 ที่เป็นกรดไขมันดี ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม อย่างน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ หรือน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสขนาด 250 มก. 1-3 ครั้งต่อวัน
  • วิตามินเอ ซี ไบโอติน และธาตุเหล็กจะช่วยให้เส้นผมดูมีสุขภาพดีและเงางามขึ้นได้เช่นกัน

9. เปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ผมแห้ง ผมขาดน้ำหนัก และทำให้มีปัญหาผมขาดชี้ฟู

บางครั้งพฤติกรรมของเราก็ทำร้ายเส้นผมไม่รู้ตัว สามารถเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อลดผมขาดชี้ฟูได้ เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป รวมถึงน้ำยาย้อมผมและเครื่องมือจัดแต่งทรงแบบใช้ความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องทำลอน และเครื่องหนีบผม เปลี่ยนมาใช้การเช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนู หรือใช้ลมเย็นในการเป่าผมให้แห้งแทนการใช้ลมร้อน หรือเปลี่ยนจากการใช้เครื่องดัดผมมาใช้วิธีการดัดผมแบบธรรมชาติแทน เช่น การถักเปียทิ้งไว้ หรือการใช้โรลพลาสติก
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดมากเกินไป ใส่หมวกเวลาออกแดดจัด เพราะแสงแดดจะทำลายความชุ่มชื้นในเส้นผม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำคลอรีนมากเกินไปในสระว่ายน้ำ ถ้าหากจำเป็นควรล้างผมก่อนที่จะลงสระ และล้างผมหรือสระผมหลังจากที่ลงไปว่ายน้ำในสระน้ำทุกครั้ง
  • ปล่อยผมแทนการรัดหรือมัดผมบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ผมเป็นรอย และไม่สวยงาม
  • อย่านอนทั้ง ๆ ที่ยังรัดผม หรือติดเครื่องประดับที่ผม เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงเส้นผมได้ไม่สะดวก
  • ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องแทนน้ำร้อนจัดในการสระผม เพราะน้ำเย็นจะช่วยปิดหนังกำพร้าและลดการสูญเสียความชื้นบนหนังศีรษะได้

10. เล็มผมบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ผมแตกปลาย

ถ้าหากผมเสีย แห้ง และชี้ฟูมาก ๆ จนเกินเยียวยา ก็ควรจะตัดหรือเล็มผมเสีย ๆ ทิ้ง ช่วยกระตุ้นให้ผมสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ ทดแทนเซลล์เดิมที่เสียไป

 

นอกจากนี้วิธีการบำรุงผมที่ขาดชี้ฟู ขาดน้ำหนักก็ยังมีอีกหลายวิธี เช่นการ ดื่มน้ำให้พอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกาย รวมถึงไปเลี้ยงเส้นผมของเราให้มีความชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย ถ้าผมแห้งเสียมาก ๆ อาจจะต้องงดเว้นจากการทำเคมีกับผมไปซักพัก อย่างเช่นการทำสีผม การดัดผม การย้อมผม และปล่อยให้เส้นผมและหนังศีรษะได้พัก และฟื้นฟูตัวเอง สำหรับใครที่ผมขาดชี้ฟู อาจจะต้องขยันบำรุงหน่อย เพียงแค่ 2-3 เดือนก็จะช่วยทำให้เส้นผมขาด ผมแห้ง ผมแตกปลายค่อย ๆ ดีขึ้น

Related