The Street Share: อาการคลั่งรัก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย มารู้จักว่าอาการคลั่งรักคืออะไร อาการของคนคลั่งรักเป็นอย่างไร แล้วจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร เรากำลังคลั่งรักอยู่หรือเปล่า แล้วจะจัดการกับความรู้สึกคลั่งรักอย่างไร?
ไม่มีกำหนดอายุ

เรากำลังคลั่งรักอยู่หรือเปล่า แล้วจะจัดการกับความรู้สึกคลั่งรักอย่างไร?

อาการคลั่งรักอาจเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และบางครั้งเราก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ โลกทั้งใบอาจกลายเป็นสีชมพู ใครก็ฉุดรั้งไว้ไม่อยู่ จนต้องตามติดอีกฝ่ายจนแทบจะเป็นเงาตามตัว ในบทความนี้จะพาไปรู้จักว่าอาการคลั่งรักคืออะไร อาการของคนคลั่งรักเป็นอย่างไร แล้วจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร


สารบัญ เรากำลังคลั่งรักอยู่หรือเปล่า แล้วจะจัดการกับความรู้สึกคลั่งรักอย่างไร?


มารู้จัก อาการคลั่งรัก คืออะไร?

มารู้จัก อาการคลั่งรัก คืออะไร?

คำว่าคลั่งรัก หรือ Limerence ถูกบัญญัติขึ้นโดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ชื่อว่า Dorothy Tennov ในปี ค.ศ. 1979 เจ้าของหนังสือ Love and Limerence – the Experience of Being in Love

อาการคลั่งรัก หรือ Limerence คืออาการชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชอบ รัก หรือหลงใหลธรรมดา แต่เป็นอาการที่บุคคลที่มีภาวะนี้มักจะคิดถึง ครุ่นคิด และหมกมุ่นอยู่กับคนที่คลั่งรักตลอดเวลา จนเกิดความรู้สึกอยากให้เขาหันมารักตอบ อยากครอบครอง มีอาการหึงหวงที่มากกว่าคนปกติทั่วไป จนไม่สามารถควบคุมความคิดและการกระทำบางอย่างของตนเองได้ ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีความรักเลย

อาการคลั่งรัก กับฮอร์โมนในร่างกาย

อาการคลั่งรัก กับฮอร์โมนในร่างกาย

รู้หรือไม่อาการคลั่งรักที่หลายคนอาจจะกำลังเป็นอยู่ และพฤติกรรมต่างๆ ที่คุณแสดงออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายของเราทั้งสิ้น โดยมีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับอาการคลั่งรักอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ดังนี้

1. ฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin)

เซโรโทนินคือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และสุขภาพร่างกายของเรา โดยในเวลาที่เรามีอาการคลั่งรัก ฮอร์โมนเซโรโทนินจะลดระดับลง ซึ่งส่งผลต่อความคิด และพฤติกรรมของเราที่จะแสดงออกมา โดยอาจทำให้เราควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และทำอะไรไปโดยไร้เหตุผล

2. ฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine)

ฮอร์โมนโดพามีนก็เป็นอีกฮอร์โมนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการคลั่งรักนี้เช่นกัน โดยจะเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการควบคุมอารมณ์ และความรู้สึก ทำให้เรามีความตื่นตัว ตื่นเต้น กระฉับกระเฉง และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ทั้งยังช่วยให้รู้สึกถึงความพึงพอใจ และรักใคร่ ซึ่งเมื่อเกิดอาการคลั่งรักจะมีระดับพุ่งสูงขึ้น ตรงกันข้ามกับฮอร์โมนเซโรโทนิน

3. ฮอร์โมนโมโนอะมีน (Monoamine)

โมโนอะมีนเป็นอีกฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ และร่างกายของเรา โดยฮอร์โมนโมโนอะมีนจะหลั่งเมื่อเกิดความรู้สึกเหงา เศร้า เสียใจ ดีใจ ตื่นเต้น หรือมีความสุข ซึ่งเป็นอีกฮอร์โมนหนึ่งที่จะหลั่งออกมามากขึ้นในช่วงที่เรามีอาการคลั่งรัก

อาการคลั่งรัก เป็นอย่างไร?

อาการคลั่งรัก เป็นอย่างไร?

สำหรับใครก็ตามที่กำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังคลั่งรักใครสักคนอยู่หรือไม่นั้น ลองมาสำรวจอาการคลั่งรักเหล่านี้กันดีกว่าว่าตรงกับตัวเองหรือไม่

1. เริ่มหลงใหลในสิ่งที่เป็นเขา

การคลั่งรักใครสักคนเราจะหลงใหลในสิ่งที่เขาเป็น และทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาทำ กิจวัตรประจำวัน การใช้ชีวิต สิ่งของที่เขาให้มา เราจะมีอาการหลงใหลคลั่งไคล้อย่างหนัก จนถึงขั้นหมกมุ่นเฝ้าคิดถึงแต่เขาในทุกๆ วัน และแทบจะตลอดเวลา

2. เริ่มอยากใกล้ชิดกับเขาทุกวัน

เวลาคลั่งรักใครสักคน เราจะเริ่มอยากใกล้ชิดกับเขามากขึ้นในทุกๆ วัน อยากเจอหน้าเขาบ่อยๆ อยากโทรไปหาในเวลาที่ไม่ได้เจอกัน พยายามหาทางให้เจอเขาให้ได้ ได้ยินเสียงที่คิดถึง หรือแค่ได้คุยกันในข้อความก็ยังดี เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขามากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง

3. เริ่มมองเห็นแต่ข้อดีของเขา

คนที่คลั่งรักมักจะมองเห็นแต่ข้อดีของเขา จนมองข้ามข้อเสียของอีกฝ่ายไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเขาจะมีจุดด้อยตรงไหนก็จะมองข้ามไป ตั้งแต่ข้อเสียเล็กๆ ไปจนถึงข้อเสียใหญ่ๆ เช่น ขี้เกียจ ไม่ดูแลสุขภาพของตัวเอง เที่ยวกลางคืนบ่อย ติดเหล้า เจ้าชู้ หรือกระทั่งนอกใจเรา แต่ก็ยังทนเพราะไม่ใช่ว่าคุณรักเขา แต่คุณคลั่งรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นต่างหาก

4. เริ่มอยากรู้จักเขามากขึ้น

สำหรับคนที่คลั่งรักใครสักคนก็ตาม แน่นอนว่าจะต้องอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น ไม่ว่าจะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือเป็นคู่รักกันแล้วก็ตาม คุณจะอยากรู้จักเขาในทุกๆ ด้าน เช่น เขาชอบอะไร งานอดิเรกที่เขาทำ สถานที่ที่เขาชอบไป ไลฟ์สไตล์ชีวิตของเขา หนังที่เขาดู เกมที่เขาเล่น หนังสือที่เขาอ่าน อาหารที่เขากิน คือแทบจะทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของเขาเลยก็ว่าได้

เริ่มวางแผนอนาคต

5. เริ่มวางแผนอนาคต

คนที่คลั่งรักมักจะเริ่มจินตนาการวางแผนอนาคตที่หวานชื่นด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียวเสียมากกว่า เช่น อาจจะคิดว่าในอนาคตจะคบกันเป็นแฟน เป็นคู่รัก แต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัวด้วยกัน อยู่ด้วยกันตลอดไปจนแก่เฒ่า เพื่อตอบสนองความรู้สึกอยากครอบครองเขาอยู่ในใจผ่านการนึกคิด

6. เริ่มประหม่าเมื่ออยู่ใกล้

หากคุณกำลังคลั่งรัก คุณจะเริ่มมีอาการเขินอาย ประหม่าเมื่ออยู่ใกล้ เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เริ่มทำอะไรไม่ถูก เวลาอยู่ต่อหน้าเขาสมองจะเบลอ พูดติดๆ ขัดๆ ไม่รู้จะเอามือไว้ตรงไหน บางคนอาจถึงขั้นเหงื่อตก ใจสั่น เวียนหัว มีอาการคล้ายจะเป็นลมเลยก็มี เพราะมีอาการตื่นเต้นจนเกินไปนั่นเอง

7. เริ่มคิดถึงแต่เขาทั้งวัน

คนที่กำลังมีอาการคลั่งรักจะคิดถึงแต่อีกฝ่ายทั้งวันแทบจะตลอดเวลา จนไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า อาจเป็นกังวลว่าเมื่อไรเขาจะตอบข้อความกลับมา เมื่อไรเขาจะโทรหา หรือเมื่อไรจะได้เจอกัน อยู่แบบนี้ทั้งวัน จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพลดลงได้

8. เริ่มให้เขาเป็นความสุข

หากคุณมีอาการคลั่งรัก คุณจะเริ่มให้เขาเป็นเพียงความสุขอย่างเดียวของคุณ จนลืมนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่สำคัญรอบตัวของคุณไป เช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง หรืองานอดิเรกที่คุณเคยชอบทำ เพราะเอาเวลาทั้งหมดมาคิดถึง และใส่ใจแต่เขาเพียงคนเดียว ซึ่งอาจทำให้สูญเสียตัวตนของคุณไปได้ในท้ายที่สุด

9. เริ่มอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา

อาการคลั่งรักจะทำให้คุณรู้สึกว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ขาดเขาไม่ได้ หากเสียเขาไปคุณจะรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่เป็นอันกินอันนอน และจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขากลับมาหา ไม่ว่าจะไปตามง้อ หรืออ้อนวอนขอความรัก คุณก็อาจจะทำแบบไม่ลืมหูลืมตา แม้แต่กับคนที่เคยทำร้ายคุณก็ตาม

อาการคลั่งรัก อันตรายหรือไม่?

แม้ว่าภายนอกอาการคลั่งรักจะเหมือนกับการตกหลุมรักทั่วๆ ไป แต่รู้หรือไม่ว่าอาการคลั่งรักก็มีอันตรายด้วยเช่นกัน เพราะคุณอาจควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำอะไรไร้เหตุผล หรือแสดงออกอย่างรุนแรง เพื่อต้องการครอบครองเขาไว้เพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักคุณก็ตาม โดยคุณอาจจะตัดสินใจทำอะไรที่เสี่ยงๆ หรืออันตราย เช่น พยายามฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา หรือเพื่อประชดเขา ซึ่งต่างจากความรักที่แท้จริง คือการปรารถนาให้คนที่คุณรักมีความสุขนั่นเอง

จัดการกับอาการคลั่งรักอย่างไรดี?

จัดการกับอาการคลั่งรักอย่างไรดี?

หลายคนคงจะกลัวว่าอันตรายของอาการคลั่งรักจะเกิดขึ้นกับตัวเองจนไม่กล้าไปรักใคร แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะในบทความนี้ได้รวบรวมวิธีจัดการกับอาการคลั่งรักไว้ให้แล้ว ต้องทำอย่างไร ไปดูกันเลย!

1. ทำความเข้าใจอาการคลั่งรัก

ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความรู้จักกับอาการคลั่งรักเป็นสิ่งแรก ว่าอาการคลั่งรักคืออะไร เราเข้าข่ายหรือไม่ โดยสังเกตตัวเองว่าเรากำลังมีความคิดอะไร รู้สึกแบบไหนอยู่ คอยสังเกตตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างถี่ถ้วนเป็นประจำ และหากคุณมีอาการเหล่านั้นจริง ก็ต้องยอมรับ และค่อยๆ หาวิธีแก้ไปทีละจุด

2. ทำความรู้จักเขาซะ

การทำความรู้จักคนที่คุณรักให้มากขึ้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการคลั่งรักได้ เพราะคุณจะได้เลิกจินตนาการไปเองว่าเขาดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้เห็นตัวตนที่แท้จริงว่าเขาเป็นคนยังไง เป็นคนแบบไหน ดีเทียบเท่ากับที่คุณจินตนาการไว้หรือไม่ นอกจากนี้ การทำความรู้จักกันในชีวิตจริงก็จะทำให้อาการคลั่งรักค่อยๆ ลดลงไปเอง

3. ควบคุมตัวเองไม่ให้คลั่งรักมากเกินไป

สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้จักควบคุมตัวเองไม่ให้มีอาการคลั่งรักจนมากเกินไป พยายามตั้งสติ มีสมาธิ และจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การเรียน และการทำงานของคุณได้นั่นเอง

4. อย่าปล่อยให้ตัวเองคลั่งรักทั้งวัน

อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณคลั่งรักเขาลดลง ไม่ต้องคิดถึงบ่อยๆ ทั้งวัน ก็คือการหาอะไรที่คุณชอบทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับการคิดถึงเขาตลอดเวลา เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกม ดูซีรีส์ ทำอาหาร เล่นกับสัตว์เลี้ยง ออกกำลังกาย ไปช้อปปิ้ง หรือมาเดินที่ห้างสรรพสินค้า The Street Ratchada เพราะที่นี่เรามีกิจกรรมให้คุณทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสปา เสริมความงาม ช้อปปิ้ง ร้องเพลง เล่นดนตรี ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร มาใช้เวลาอยู่ที่นี่แล้วคุณจะสนุกสุดเหวี่ยงไปทั้งวันจนลืมว่ากำลังคลั่งรักอยู่เลย

สรุป

อาการคลั่งรักเป็นอาการของคนที่กำลังคลั่งไคล้ใครสักคนหนึ่งเป็นอย่างมาก จนอาจไม่สามารถควบคุมความคิด และการกระทำของตัวเองได้ ซึ่งอาจมีอันตรายที่คุณไม่คาดคิด ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจในการกระทำบางอย่างที่ก่อให้เกิดความรุนแรงได้ จึงควรจัดการกับอาการคลั่งรักให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งก็คือการทำความเข้าใจ เรียนรู้ ยอมรับ และทำความรู้จักกับคนที่คุณกำลังคลั่งไคล้ พยายามควบคุมตัวเองให้ได้ และหาอะไรสนุกๆ ทำ 

หากคุณยังไม่รู้ว่าจะทำกิจกรรมอะไรดี เราขอแนะนำให้มาที่ The Street Ratchada เพราะมีพื้นที่ให้พักผ่อน ช้อปปิ้ง และร้านอาหารมากมายให้ได้ใช้เวลาเพื่อหาความสุขกับพื้นที่ส่วนนี้ เพื่อจะได้ลืมอาการคลั่งรักได้โดยไม่ต้องบังคับใจตัวเองมากเกินไป

Related